ทั้งนี้ ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มดังกล่าว สวนทางต้นทุนที่ขยับขึ้นจากพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เสียหายจากน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ขณะที่ราคาไข่ไก่ต้นทางจากฟาร์มเพียงเท่านี้ แต่กว่าจะถึงผู้บริโภคปลายทางนั้น ยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายทอด ตั้งแต่พ่อค้าส่งไปกระทั่งแม่ค้าขายปลีก จึงอยากวอนให้ผู้บริโภคเข้าใจและเห็นใจผู้เลี้ยงไก่ไข่ด้วย
ที่สำคัญ ผลพวงจากการเปิดเสรีนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่เมื่อปีที่แล้ว กำลังเริ่มส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และจะยิ่งทำให้แนวโน้มราคาไข่ในปี 2555 มีทิศทางตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจากปริมาณแม่ไก่ไข่ยืนกรงที่เพิ่มขึ้นจาก 37-38 ล้านตัวเป็น 54 ล้านตัวนั้น จะทำให้ปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดในปีหน้าเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่า จากที่เคยผลิตได้ 10,000 ล้านฟองต่อปี จะกลายเป็น14,000 — 15,000 ล้านฟองต่อปี เกินกว่าอัตราการบริโภคของคนไทยแน่นอน สิ่งที่ตามมาคือ ระดับราคาไข่ไก่จะตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ภาครัฐจึงควรมีมาตรการพยุงราคาเพื่อเตรียมรับมือปริมาณไข่ไก่มหาศาลในปีหน้าด้วย
“ธรรมชาติของสินค้าเกษตรอย่างไข่ไก่นั้นมีความอ่อนไหว ราคาผันผวนได้ง่ายเมื่อมีปัจจัยใดๆก็ตามมากระทบ เช่น เมื่อใดที่มีผลผลิตออกมาล้นตลาด เมื่อนั้นราคาก็จะตกลง พอตกต่ำลงมากๆ เกษตรกรผู้เลี้ยงขาดทุนกันหนักต้องลดปริมาณการเลี้ยง หรือเลิกกิจการไข่ไก่ไป ประเด็นนี้ภาครัฐจำเป็นต้องเร่งวางมาตรการโดยด่วน ก่อนที่ผู้เลี้ยงหลายรายจะแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว” นายมงคลกล่าว