ฟิทช์คาดว่าผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจปรับตัวลดลงในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 เนื่องจากการหยุดชะงักของภาคธุรกิจและและภาคการบริโภค อย่างไรก็ตามการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับสูงหลังน้ำท่วมน่าจะช่วยลดผลกระทบได้บ้าง ความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ น่าจะลดลงเนื่องจากเกณฑ์การผ่อนผันของธนาคารแห่งประเทศที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถคงสถานะลูกหนี้สินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมไว้ได้เป็นเวลา 6 — 12 เดือน ทั้งนี้ฟิทช์มองว่าการล่าช้าของกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจน่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อธนาคารพาณิชย์ไทย ในการประมาณเมินสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรง (severe stress scenario) สถานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ที่มีสัดส่วนการสำรองหนี้สูญในระดับต่ำจะได้รับผลกระทบมากกว่า
การเติบโตของสินเชื่อในระดับสูงโดยไม่มีการเติบโตของฐานเงินฝากควบคู่กันไปได้ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้ความเสี่ยงในด้านการระดมทุนและสภาพคล่องปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจาก นี้ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงินโลกอาจส่งผลให้ความเสี่ยงดังกล่าวสำหรับธนาคารพาณิชย์ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กและขนาดกลาง การออกตั๋วเงินฝาก (bills of exchange) ในปริมาณที่มากและการพึ่งพาเงินทุนสกุลเงินต่างประเทศในระดับที่สูงมากเกินไป อาจจะส่งผลให้ฟิทช์พิจารณาเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบได้
รายงานเรื่อง “2012 Outlook: Major Thai Banks” สามารถดูได้ที่ www.fitchratings.com