นายฐานิศร์ ศิริโชติ ผู้จัดการฝ่ายบริการแลกเปลี่ยนและโอนเงินระหว่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมมือกับธนาคารพงสะหวัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ธนาคารแห่งแรกที่เอกชนลาวถือหุ้น 100% ในการเปิดให้บริการแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเอทีเอ็มของธนาคารพงสะหวัน สามารถเบิกถอนเงินสดและตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพที่มีอยู่กว่า 7,700 เครื่องทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพนับเป็นธนาคารไทยแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้ร่วมมือกับธนาคารของสปป.ลาว ในการให้บริการดังกล่าว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนลาวที่ข้ามแดนมาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาลาวที่ศึกษาอยู่ในประเทศไทยในการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่ศึกษาอยู่ในประเทศไทย
“รัฐบาลไทยและรัฐบาล สปป.ลาว ได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมการค้าชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 มีประชาชนลาวและชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ใน สปป.ลาว เดินทางข้ามมายังประเทศไทยเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคและรับบริการต่างๆ สูงถึง 1.1 ล้านคน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคตจากการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งใหม่ที่จังหวัดนครพนม (นครพนม-คำม่วน) จึงส่งผลให้ความต้องการเงินบาทมีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก ธนาคารกรุงเทพในฐานะสถาบันการเงินอันดับหนึ่งของประเทศจึงประสงค์ที่จะสนับสนุนและตอบสนองนโยบายการค้าชายแดนไทย-ลาวของรัฐบาล”
นายฐานิศร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้เปิดให้บริการแลกเปลี่ยนธนบัตรสกุลเงินกีบ ของ สปป.ลาว ผ่านที่ทำการสาขาโดยส่วนใหญ่ของธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ และจุดแลกเปลี่ยนเงิน บริเวณจุดผ่านแดนกว่า 30 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าชาวไทย ชาวลาว และชาวต่างชาติที่ต้องการแลกเปลี่ยนเงินตรา ช่วยรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าขายไทย-ลาว ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารพงสะหวัน ก่อตั้งโดยท่านอ๊อด พงสะหวัน จดทะเบียนจัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2550 ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเวียงจันทน์ นับเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของ สปป.ลาว ที่ถือหุ้นโดยเอกชนลาว 100% โดยให้บริการด้านการเงินแก่ลูกค้าทั้งรายใหญ่ รายกลาง และย่อย
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0-2645-5555