นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจของบริษัท เอออน ฮิววิท (Aon Hewitt) ร่วมมือกับนิตยสารฟอร์จูน และบริษัท เดอะ อาร์บีแอล กรุ๊ป (The RBL Group) ที่สำรวจองค์กรชั้นนำทั่วโลก เพื่อค้นหาสุดยอดองค์กรแห่งการสร้างผู้นำ (Top Company for Leaders Award-TCFL) ในระดับโลก และระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2554 ปรากฎว่า ธนาคาร กสิกรไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 20 องค์กรที่ได้รับรางวัลสุดยอดองค์กรแห่งการสร้างผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Top Company for Leaders) โดยมีองค์กรไทยที่ได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับ 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือ AIS ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีองค์กรจากประเทศไทยได้รับรางวัลดังกล่าว ตั้งแต่มีการสำรวจและจัดอันดับรางวัลนี้ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา
รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้สะท้อนความสำเร็จของเครือธนาคารกสิกรไทย ที่มีแผนการพัฒนาความเป็นผู้นำในองค์กรที่เป็นเลิศจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันเป็นผลจากนโยบายที่เชื่อมั่นว่า ผู้นำมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าและความยั่งยืนของทั้งองค์การและพนักงาน จึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาภาวะผู้นำในองค์การ โดยเครือธนาคาร ฯ ได้มุ่งสร้างฐานกำลังคนที่จะเป็นผู้นำในอนาคต (Talent Pool) ให้มีจำนวนที่มากพอต่อความต้องการ ผ่านการจัดทำแผนที่การพัฒนาผู้นำ (Leadership Development Roadmap) ที่กำหนดแนวทางการพัฒนาไว้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม และมีการกำหนดให้การพัฒนาพนักงานและภาวะผู้นำเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีวัดผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารทุกคนด้วย
สิ่งสำคัญประการหนึ่ง คือ เครือธนาคาร ฯ จะมีการทบทวนและกำหนดคุณสมบัติของผู้นำเครือธนาคารกสิกรไทย (KGroup Leadership Qualities) ให้สอดคล้องกับทิศทาง กลยุทธ์ และความสามารถหลักที่องค์กรต้องมี (Organization Key Capability) รวมทั้งมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอยู่เสมอ และเมื่อได้ต้นแบบของผู้นำที่ต้องการแล้ว เครือธนาคาร ฯ จะใช้ความสามารถ (Competency) เหล่านี้ เป็นแนวทางในการคัดเลือกและพัฒนาคน โดยคัดเลือกผู้ที่มีผลงานดีอย่างต่อเนื่อง มีศักยภาพสูง และมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยมหลักขององค์กรเข้าสู่กระบวนการพัฒนา มีการจัดรูปแบบการพัฒนาที่ชัดเจนผ่านช่องทางการเรียนรู้หลายวิธีการ มีการมอบหมายงานที่เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญ ๆ ให้ดำเนินการ มีโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำ (Leadership Development Program - LDP) เพื่อพัฒนาพนักงานที่มีศักยภาพสูงเป็นการเฉพาะ และมีระบบการติดตามผลการพัฒนาของพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการดูแลรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูงอย่างใกล้ชิด
สิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จในการพัฒนาผู้นำในองค์กร คือ การที่เครือธนาคาร ฯ มีจำนวนพนักงานที่มีศักยภาพสูงอยู่ใน Leadership Pipeline ในจำนวนที่เพียงพอ สามารถรองรับการขยายธุรกิจตามแผนยุทธ์ศาสตร์ที่ได้วางไว้ เช่น การที่ธนาคารกสิกรไทย เปลี่ยนจากการเป็นธนาคารพาณิชย์ทั่วไป (Commercial bank) มาเป็นธนาคารผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร (Universal bank) มีธุรกิจในเครือครบทุกด้านของธุรกิจการเงิน การขยายธุรกิจได้อย่างดีในทุกกลุ่มลูกค้า และขยายธุรกิจไปยังประเทศจีน
นอกจากนี้ ความสำเร็จในการพัฒนาผู้นำของเครือธนาคารกสิกรไทย ยังช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ในสภาวะที่มีการแย่งชิงบุคคลทางการเงินที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงด้วย ซึ่งระบบการพัฒนาผู้นำที่ดี จะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เครือธนาคาร ฯ สามารถดึงดูดผู้ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้ ขณะดียวกันความสำเร็จของการพัฒนาผู้นำจะเห็นได้จากการที่พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของตนได้อย่างเต็มที่ จนก้าวขึ้นป็นผู้บริหารในระดับต่าง ๆ และเป็นที่ยอมรับทั้งภายในและนอกธนาคาร ฯ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่ผลการดำเนินธุรกิจของเครือธนาคารกสิกรไทยที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นยั่งยืนในตลาดการเงินปัจจุบัน