นพ.ทรงยศ จันทจิตร์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง แห่งยศยาคลินิก กล่าวว่า ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังมีคุณสมบัติเด่น 2 ประการคือ การเติมร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น และ การเพิ่มปริมาตรเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆของร่างกาย โดยการเติมร่องริ้วรอยทั้งร่องแก้ม ใต้ริมฝีปาก หัวคิ้ว และใต้ตาล่าง ส่วนการฉีดเพื่อเพิ่มปริมาตรของเนื้อเยื่อจะช่วยในการปรับรูปร่างใบหน้าให้สวยเข้ารูปได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นได้แก่ การฉีดเสริมจมูก คาง แก้ม ขมับ เป็นต้น
สารที่นำมาฉีดเติมเต็มใต้ผิวหนังมีหลายชนิด ที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ในปัจจุบัน และถูกนำมาใช้มากที่สุดคือ สารไฮยาลูรอนิก แอสิด (Hyaluronic Acid) และการฉีดไขมันตนเอง (Fat Transfer) ซึ่งสารไฮยาลูรอนิก เป็นที่ยอมรับและใช้กันแพร่หลายทั่วโลกมากกว่าสารอื่นๆ เพราะมีงานวิจัยรองรับถึงความปลอดภัยในการใช้ โดยการสังเคราะห์ไฮยาลูรอนิกนี้จะมีลักษณะโมเลกุลคล้ายกับสารไฮยาลูรอนิกในร่างกายมนุษย์ และเนื่องจากไม่ใช่เป็นคอลลาเจนที่ผลิตมาจากสัตว์ จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง
วิธีฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกนั้น แพทย์จะทายาชาหรือฉีดยาชาตามแนวสันจมูก แล้วจึงฉีดสารไฮยาลูรอนิก ตามแนวสันจมูก หรือปลายจมูก และหลังฉีดเมื่อเลือดหยุดดีแล้วจึงทำการปั้นแต่งโดยเกลี่ยสารเติมผิวให้เข้าที่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง จนได้จมูกที่สวยได้รูปในทันที สิ่งที่สำคัญที่สุดของการฉีดฟิลเลอร์ที่จมูก คือ แพทย์จำเป็นต้องมีความรู้ความชำนาญเรื่องกายวิภาคของจมูกอย่างเชี่ยวชาญ มีเทคนิคการฉีดต้องถูกต้องเหมาะสม มีการประเมินรูปร่างจมูกว่าบริเวณใดต้องฉีดมากน้อยเพียงใด และฉีดสารในชั้นผิวหนังที่ถูกต้อง ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะสันจมูกที่ประกอบด้วย สันกระดูกบริเวณหัวตา(Radix), กระดูกแข็งส่วนบน(Bony Vault), กระดูกอ่อนส่วน upper lateral cartilage, กระดูกอ่อนส่วน Supratip of Lower lateral cartilage และ กระดูกอ่อนส่วน Infratip of Lower lateral cartilage นอกจากนี้ยังมีส่วนค้ำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นเรียกว่า Columella ซึ่งบริเวณที่จะต้องฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อให้ได้รูปทรงจมูกที่สวยงามจะต้องคำควณให้ดีว่าสันจมูกทั้ง 6 บริเวณดังกล่าว จะต้องใช้ปริมาณสารเติมเต็มเท่าใด และต้องปรับมุมองศาของปลายจมูกด้วยหรือไม่ โดยความเชิดของปลายจมูกควรต้องมีความพอดี เมื่อมองจากด้านข้างแล้ว จมูกควรทำมุม 90 ถึง 95 องศา กับเนื้อด้านบนริมฝีปาก ซึ่งขั้นตอนการปรับปริมาณสารเติมเต็มในแต่ละบริเวณนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด และต้องใช้ประสบการณ์และความรู้เฉพาะทางของแพทย์อย่างมาก
ฉีดด่วน...ดั้งโด่งทันใจ การฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกนั้นใช้เวลาเพียง 10 นาที หลังฉีดเสร็จจมูกก็โด่งทันตา คนไข้ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปทำงานได้ตามปกติ หากไม่พอใจก็สามารถฉีดสลายได้ (ฟิลเลอร์ที่ดีควรมีตัวฉีดสลาย หากไม่มี ให้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นสารอื่นที่ไม่ปลอดภัย) และสารไฮยาลูรอนิก มีอายุประมาณ1 ปี แล้วจะสลายไปเองตามธรรมชาติโดยไม่มีร่องรอยใดๆทิ้งไว้ ลักษณะจมูกที่เหมาะสม ที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วได้ผลดีมากคือ คนที่มีปัญหาสันจมูกน้อย โดยที่ปลายจมูกไม่กว้างจนผิดรูปหรือมีมุมองศาที่ดูจมูกเชิดมากไป ฐานจมูกไม่กว้างมาก และมีความหนาของผิวหนังที่ปลายจมูกเหมาะสม คือไม่หนาหรือบางจนเกินไป
ระวังฟิลเลอร์ปลอม
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่การศัลยกรรมจมูกจึงมีอายุไม่ได้อยู่ถาวร เพราะสารไฮยาลูรอนิก มีอายุประมาณ1 ปี แล้วจะค่อยๆสลายไปจึงต้องมาทำการฉีดเติมเป็นระยะๆ ทำให้ต้องเสียสตางค์บ่อยครั้งตามการฉีด ที่สำคัญการฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือไม่มีความรู้ด้านโครงสร้างจมูกหรือขาดความเชี่ยวชาญในการฉีดสารไฮยาลูรอนิกอาจไม่ได้รูปทรงจมูกที่สวยงามได้มุมจมูกหรือสัดส่วนจมูกตามมาตรฐาน และอาจมีการมีการไหลเคลื่อนที่หรือบิดเบี้ยวไปได้ ยิ่งจมูกของคนที่มีเนื้อน้อย ผิวบางก็ต้องใช้การประเมินที่ละเอียดรอบคอบ ถ้าฉีดตื้นเกินไปผิวหนังจะดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติหรือผิวหนังบวมแดงได้ หรือเทคนิคตอนฉีดถ้าปล่อยสารไม่ต่อเนื่อง สารอาจเป็นก้อนขรุขระหรืออาจไหลเลื่อนไปส่วนอื่นได้ หรือถ้าแพทย์ที่ไม่มีความรู้เรื่องตำแหน่งการฉีด และตำแหน่งเส้นเลือดก็อาจมีการฉีดสารเข้าไปในเส้นเลือดเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
ที่อันตรายมากที่สุดคือ การที่คลินิกซึ่งไม่ได้มาตรฐานใช้สารอื่นที่ไม่ใช่สารไฮยาลูรอนิก เช่นซิลิโคนเหลว พาราฟินหรือน้ำมันอื่นๆ หรือคอลลาเจนที่สังเคราะห์จากสัตว์ ในการฉีดจมูก จะทำให้ผิวหนังที่จมูกแดง บวมอักเสบ เนื้อที่จมูกตายอย่างถาวร สารที่ว่านี้ยังไหลไปบริเวณข้างเคียงทำให้ผิดรูปร่าง สารอันตรายนี้จะอยู่ในร่างกายนานโดยไม่มีการสลายตัว ไม่สามารถฉีดสลายได้เลยจึงทำให้แก้ไขได้ยากมาก
ดังนั้นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกคือ ต้องแน่ใจว่าสารที่แพทย์ฉีดให้คือสารไฮยาลูรอนิก แพทย์ที่ฉีดให้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และน่าเชื่อถือ ควรศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบก่อนการฉีด เพื่อที่จมูกใหม่จะสวยสมใจและไม่ทำร้ายเจ้าของจมูก
ติดต่อ:
ยศยาคลินิก 257/9 ถ.รัชดาภิเษก ดินแดง กทม. 10400 โทร. 02-6938693