นายสันติ พร้อมพัฒน์ กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายเร่งสร้างสวัสดิการที่มั่นคงให้แก่คนไทยทุกคน ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการกรอบแผนปฎิบัติการการจัดสวัสดิการถ้วนหน้า ปี ๒๕๖๐ ทั้งนี้ ได้พิจารณาบรรจุไว้ในรายละเอียดในแผนยุทธศาสตร์สวัสดิการสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๕- ๒๕๕๙ ) โดยปรับแผนปฎิบัติการให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเพื่อตอบสนองต่อปัญหาต่อประชาชน ดังนี้ ๑.ยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนาระบบสวัสดิการ เพื่อสวัสดการถ้วนหน้า ๒.ยุทธศาสตร์เสริมพลังทุกภาคส่วนสู่สังคมสวัสดิการ ๓.ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานบริการ และการบริหารจัดการ ๔.ยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนามาตรการทางการเงิน การคลัง และการระดมทุนเพื่อสังคม และ ๕.ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบสวัสดิการสังคมไทยสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก พร้อมนี้จะทำแผนปฏิบัติการรองรับโดยปรับให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อให้การพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมสามารถตอบสนองต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
นายสันติ กล่าวต่อว่า ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ และครบรอบ ๑๐ ปี ที่สหประชาชาติประกาศให้ปี ๒๐๐๑ เป็นปีอาสาสมัครสากล ประกอบกับประเทศไทยมีเหตุการณ์มหาอุทกภัยเกิดขึ้น และมีอาสาสมัครเข้ามามีบทบาทและรับผิดชอบต่อสังคมเพิ่มขึ้น ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบข้อเสนอแนวทางการพัฒนาอาสาสมัครไทย ซึ่งมีสาระสำคัญให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒางานอาสาสมัครไปสู่การก่อให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โดยการส่งเสริมการเป็นอาสาสมัคร การพัฒนาความรู้ความสามารถของอาสาสมัคร การพัฒนาองค์การและบุคลากร การสร้างเครือข่าย การสื่อสารและการรณรงค์สาธารณะ และความร่วมมือกับต่างประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบขอ้กำหนดคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติว่าด้วยมาตรฐานในการฝึกอบรมด้านสังคมสงเคราะหื และคุณสมบัติสำหรับผู้ซึ่งปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมเพื่อเป็นนักสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. ... ซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานด้านสังคมสงเคราะห์ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนที่ไม่มีวุฒิทางด้านสังคมสงเคราะห์สามารถเข้ารับการอบรมเพื่อเป็นนักสังคมสงเคราะห์ตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และ(ฉบับที่๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไป