“เรื่องนี้เป็นอะไรที่หลายๆ คนก็ยังสับสนกับข่าวว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนั้นพี่เองก็งงเหมือนกันเพราะอยู่ๆ ก็มีข่าวว่าจุ๋ยจะย้ายค่าย โดยที่ไม่มีการมาบอกกล่าวหรือขออนุญาตใดๆทั้งสิ้น เมื่อได้ สอบถามจุ๋ย น้องถึงบอกว่า น้องได้ไปรับปากจะเล่นละครกับทางโน้นไว้แล้ว แถมยังไปแคสติ้งกับทีมงานมาเรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำ เราจึงได้บอกไปว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน และถ้ามาบอกหลังจากที่ไปทำทุกอย่างมาหมดแล้วแบบนี้ ไม่ถูกต้อง..และก็ยืนยันว่า ยังไงก็ไม่สามารถจะอนุญาตได้เพราะไม่เหมาะสม สัญญากับบริษัทก็ยังมีอยู่ ที่สำคัญควรให้เกียรติกัน อย่างน้อยเข้ามาปรึกษากันก่อนก็จะดีกว่านี้”
“หลังจากงั้นก็เงียบไป..คงติดขัดอะไรหลายอย่างก็นึกว่าจบไปแล้ว..ระหว่างนั้นพี่ก็เป็นห่วงเขาอยู่ เพราะข่าวออกมามันก็ดูไม่ค่อยดีสำหรับเขา ซักพักน้องก็เข้ามาปรึกษาว่า จะกลับมาเล่นละครช่อง 7 ได้อีกหรือไม่ พี่ก็แนะนำว่า มีอะไรก็ให้เขาไปพบผู้ใหญ่ ไปบอกกล่าวอธิบายเรื่องราวและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปปรึกษาที่สถานีจะดีที่สุด ...มาทราบอีกครั้งหลังจากน้องไปสถานีแล้วก็คือ เขากลับไปขอเป็นนักแสดงอิสระ ซึ่งตรงนี้ต้องกลับมาคุยกับทางต้นสังกัดคือกันตนาแล้วไม่เกี่ยวกับสถานี”
“เมื่อมาถึงขั้นนี้ ในเมื่อใจเขาจะไป ก็ไม่อยากห้ามแล้ว..ในสัญญาก็มีเขียนรายละเอียดอยู่ทุกอย่าง ถ้าจะเลิกสัญญาก่อนกำหนดก็ต้องปฎิบัติตามสัญญาให้ถูกต้อง ..เราไม่อยากทักท้วงแล้ว..แต่ยังไงก็ยังยืนยันว่าไม่เหมาะสมอยู่ดี..ก็อยากจะฝากให้คิดดูให้ดี ทุกการกระทำจะส่งผลอนาคตของเขาโดยตรง”
“สำหรับกันตนาเอง เราคิดเสมอว่าเราเกิดจากช่อง 7 สี ยังไงเราก็รักและผูกพันบ้านหลังนี้ของเราไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราก็ยังยืนยันที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับให้ดีที่สุดค่ะ”