นายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปตท. ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ NGV ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงได้เร่งขนส่งก๊าซฯจากฝั่งตะวันออก (อ่าวไทย) มาให้บริการในพื้นที่ฝั่งตะวันตกอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนก๊าซฯ แต่เนื่องจากความจำเป็นในการปิดสถานี NGV จำนวน 16 แห่ง เป็นการชั่วคราว และสถานี NGV อีกจำนวน 39 แห่ง ให้บริการได้เฉพาะรถขนาดใหญ่ (คุณภาพก๊าซมีค่าความร้อนสูง อาจส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของรถยนต์ขนาดเล็กได้) ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงอาจทำให้รถยนต์ขนาดเล็กต้องรอคิวเติม NGV เป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน ซึ่งทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก ปตท. จึงได้เร่งบริหารจัดการด้วยการจัดส่งก๊าซไปยังสถานีที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ปตท. ขอยืนยันเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ปตท. มีก๊าซ NGV ให้บริการอย่างเพียงพอ แต่มีความจำเป็นต้องกำหนดสถานีให้บริการรถยนต์แต่ละประเภท เนื่องจากเหตุผลด้านคุณภาพก๊าซของฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกที่มีความแตกต่างกัน ปตท. จึงใคร่ขอให้ผู้ใช้รถ NGV เลือกเติม NGV ในสถานีบริการ NGV สำหรับรถยนต์ที่กำหนดไว้แต่ละประเภท (รถยนต์ขนาดเล็ก/รถยนต์ขนาดใหญ่) ทั้งนี้เพื่อความสะดวกและมิให้ส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ของท่าน โอกาสนี้ ปตท. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย สำหรับผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อและสถานะของสถานีบริการ NGV ตลอดจนรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ www.pttplc.com และ Application “PTT Life Station” บน iPhone หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PTT Call Center 1365 กด 5
โทรศัพท์ 0-2537-3209 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทรสาร 0-2537- 3211