สภาหอฯ เชื่อไทยเป็นฐานผลิตให้จีนในช่วง 5 ปีข้างหน้า เผยเอสเอ็มอีจีนแห่ลงทุนนอกประเทศ - เร่งผลิตสินค้าคุณภาพ

จันทร์ ๐๙ มกราคม ๒๐๑๒ ๑๖:๓๔
สภาหอการค้าฯ ชี้ ทิศทางลงทุนจากจีนจะออกไปลงทุนนอกบ้านมากขึ้นในช่วง 5 ปีนับจากนี้ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีจีนจะเน้นการผลิตสินค้าคุณภาพสูง ป้อนความต้องการผู้บริโภคในจีนและอาเซียน พร้อมเตือนรัฐบาลเร่งพัฒนาบุคคลากรไทย เน้นภาษาต่างประเทศ หวั่นไทยตกกระแสความน่าสนใจลงทุน

นายไกรสินธุ์ วงศ์สุรไกร รองประธานคณะกรรมการ AEC Prompt และรองประธานคณะกรรมการอาหารและธุรกิจการเกษตร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายในงานสัมมนา บีโอไอแฟร์ 2011 ภายใต้หัวข้อ “จะทำธุรกิจจีนกับอาเซียนต้องรู้อะไรและสายไปหรือยัง” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี (2011-2015) ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมุ่งเน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าจ้างแรงงาน ต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่า จะเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนจากจีนย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งปัจจุบันร้อยละ 78 ของเอสเอ็มอีจีน ให้ความสนใจกับการเข้ามาลงทุนในกลุ่มเอเซียแปซิฟิก รองมาเป็นยุโรป สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ

ทิศทางการลงทุนดังกล่าว จึงเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในความสนใจจากนักลงทุนจีน รองจาก สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยเฉพาะในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน สำหรับจำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงการส่งกลับไปจำหน่ายในประเทศจีน ที่ปัจจุบันเริ่มมีทิศทางของความต้องการของตลาดอุปโภค และบริโภค ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่ได้คุณภาพ มาตรฐานสูงขึ้น แม้จะมีราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจากในตลาดทั่วไป ซึ่งทิศทางดังกล่าว เป็นสิ่งที่ถูกมองว่าแตกต่างจากอดีตที่การผลิตสินค้าจะเน้นราคาถูก

“ปัจจุบันการสร้างความมั่นใจในสินค้าที่ผลิตในจีนเอง บางส่วนยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคจีนมากนัก เมื่อเทียบกับ การผลิตสินค้าจากประเทศไทยได้รับการยอมรับที่ดี จากกลุ่มผู้บริโภคในประเทศจีน ทั้งด้านรูปแบบ และคุณภาพ ซึ่งจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจ และดึงดูดให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตามประเทศไทยเอง จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับตลาดบริโภคในประเทศที่มีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงการเข้มงวดด้านมาตรฐานสินค้า ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทิศทางภาคการผลิตในเมืองไทยหลุดพ้นจากการผลิตสินค้าต้นทุนต่ำ และปัญหาด้านค่าแรงขั้นต่ำอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับทิศทางการส่งเสริมการลงทุนของประเทศที่ให้มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ” นายไกรสินธุ์ กล่าว

นายไกรสินธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาในด้านการเมือง คอรัปชั่น โดยเฉพาะ ข้อจำกัดในด้านการสื่อสาร ภาษาต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการบดบังศักยภาพในด้านการรองรับการลงทุนของไทย โดยเฉพาะขีดความสามารถทางด้านภาษาที่ปัจจุบันประเทศไทยยังเป็นรองจากหลายประเทศ ซึ่งภาคธุรกิจมั่นใจว่า หากประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาและเร่งส่งเสริมการให้ความสำคัญในด้านดังกล่าว ที่สุดประเทศไทยจะสูญเสียความน่าสนใจในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนในภูมิภาคไปในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๖:๐๖ PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๖:๔๖ CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๖:๒๕ ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
๑๕:๐๓ แอปเปิลสายพันธุ์ฝรั่งเศสจากการผลิตแบบยั่งยืน พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้คนไทย!
๑๕:๔๗ CEO-NV ร่วมตัดริบบิ้นก่อตั้งแพลตฟอร์มการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพการแพทย์ แผนจีน-ไทย-มาเก๊า
๑๕:๓๗ การ์ทเนอร์คาดการณ์ภายในสามปีปัญหาพลังงานไม่เพียงพอจะเป็นปัจจัยจำกัดขีดความสามารถ AI Data Center ถึง 40%
๑๕:๑๑ The Skinov'e นวัตกรรมสกินแคร์จากเปลือกกล้วยหอมทองปทุม ผลงานวิจัยจุฬาฯ ที่ทำให้สิวเป็นเรื่องกล้วยๆ
๑๕:๓๕ วว. / KUST ประเทศจีน เครือข่ายพันธมิตร บูรณาการความร่วมมือวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีทวิภาคี แลกเปลี่ยนความรู้การบรรเทาป้องกันภัยพิบัติ
๑๕:๕๖ งานผ้าตัดเย็บแฮนด์เมดทำด้วยใจสุดปราณีต จากวิสาหกิจชุมชนผ้าปักม้งบ้านไทรงาม ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา