นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี พลัส พี จำกัด (มหาชน) (PLUS) เปิดเผยว่า บริษัท อควา คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อควา มีเดีย 360 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ PLUS ได้ร่วมกันยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2186/2554 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ต่อนายอภิเทพ ธรรมเกษม ซึ่งอดีตเคยเป็นกรรมการและกรรมการผู้จัดการของ บริษัท อควา มีเดีย 360 จำกัด ในข้อหากรรมการประกอบการแข่งขันกับบริษัทและตัวแทนกระทำให้ตัวการได้รับความเสียหาย โดยเรียกร้องความเสียหายเป็นทุนทรัพย์ในการฟ้องครั้งนี้ จำนวน 50 ล้านบาท นอกจากนี้ที่ผ่านมาก็ได้ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1422/2554 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 โดยปัจจุบันขบวนการของคดีดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนที่นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 8 และ 29 มีนาคม 2555 และนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 29 มีนาคม 2555
ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีเกี่ยวกับรายการทีวีที่หลุดผังรายการจากช่อง ททบ. 5 ของ บริษัท อควา มีเดีย 360 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (AQUA) และ AQUA เป็นบริษัทย่อยของ PLUS ซึ่งจากการตรวจสอบของบริษัทพบว่า นายอภิเทพ ธรรมเกษม เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โซลิด เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นอยู่ใน “โซลิด เอนเตอร์เทนเม้นท์”
ซึ่งได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 และที่สำคัญในขณะนั้นรายการทีวีของ “อควา มีเดีย 360” หลุดผังรายการปี 2554 ของช่อง ททบ.5 ทั้งหมด และรายการลีฟวิ่ง มันตรา ซึ่งเป็นรายการทีวีของ “อควา มีเดีย 360” ในปี 2553 ต่อมาในปี 2554 ได้แพร่ภาพออกอากาศในชื่อรายการมันตรา คลับ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ “โซลิด เอนเตอร์เทนเม้นท์” ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับ PLUS และบริษัทย่อย แต่เป็นบริษัทที่ นายอภิเทพ ธรรมเกษม ไปก่อตั้งและนำเข้าทำสัญญากับกองทัพบก เพื่อให้ได้รับสิทธิผลิตรายการโทรทัศน์แพร่ภาพออกอากาศ ทางช่อง ททบ. 5 และภายหลังได้ตรวจสอบจากขั้นตอนการดำเนินคดีของบริษัทย่อย พบว่า “โซลิด เอนเตอร์เทนเม้นท์” ได้รับสิทธิการจัดสรรเวลาออกอากาศทั้งหมด 8 รายการ
จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่าการกระทำของ นายอภิเทพ ธรรมเกษม ได้จัดตั้ง “โซลิด เอนเตอร์เทนเม้นท์” เพื่อทำธุรกิจลักษณะเดียวกันกับ “อควา มีเดีย 360” จนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 281/2 ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (“พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ”) ว่าด้วยเรื่องกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทหรือผู้บริหารของบริษัทหรือบริษัทย่อยไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว อีกทั้งการประกอบธุรกิจแข่งขันกับ “อควา มีเดีย 360” อาจขัดต่อมาตรา 1168 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ
“ในฐานะผู้บริหารของบริษัทต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นของให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมั่นใจได้ว่าบริษัทจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นการดำเนินตามหลักธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ PLUS ได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดอยู่แล้ว และในกรณีนี้หากมีความคืบหน้าในคดีประการใด บริษัทจะรีบแจ้งให้ผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้รับทราบต่อไป” นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.พี พลัส พี กล่าวในที่สุด