นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าที่ผ่านมา วิกฤตการณ์ทางการเงินสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2551 ถือเป็นวิกฤติการเงินครั้งใหญ่อีกครั้งที่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งทางด้านการเงินและการคลัง โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ(ซับไพร์ม) ในสหรัฐอเมริกา ที่ได้แผ่ขยายลุกลามไปยังสินเชื่อประเภทอื่นๆ และมีผลกระทบต่อฐานะการดำเนินงานของสถาบันการเงิน จนนำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงิน รวมทั้งปัญหาสภาพคล่องในระบบการเงินทั่วโลก
ดังนั้น การประกันเงินฝากหรือการกำหนดจำนวนเงินคุ้มครองไว้ชัดเจนเป็นวิธีการหนึ่งของรัฐบาลในการคุ้มครองผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ว่าจะได้รับคืนทุกบาททุกสตางค์ อันจะบรรเทาความตื่นตระหนกเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับสถาบันการเงิน ผู้ฝากเงินไม่มีความจำเป็นต้องเร่งถอนเงินที่อาจทำให้เกิดปัญหาขาดความเชื่อมั่นลุกลามต่อเนื่องในลักษณะลูกโซ่เหมือนในอดีต การคุ้มครองเงินฝากจึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งของความปลอดภัยทางการเงิน
นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่า การมีสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เป็นผู้ทำหน้าที่จ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเมื่อสถาบันการเงินปิดกิจการ จะมีข้อดีกว่าเดิมคือ ผู้ฝากจะได้เงินคืนอย่างรวดเร็วในจำนวนไม่เกิน 50 ล้านบาทในปี 2554 และ1 ล้านบาทหลังเดือนสิงหาคม 2555 จากนั้นจะได้รับเงินคืนส่วนที่เหลือภายหลังการชำระบัญชี ที่ไม่น่าจะมีกระบวนที่ยาวนานดังเช่นแต่ก่อน
โดยเมื่อสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต กฎหมายกำหนดให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากประกาศภายใน 40 วันให้ผู้ฝากเงินมายื่นเรื่องเพื่อขอรับเงิน นับแต่วันที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยผู้ฝากมีเวลาในการยื่นขอรับเงินภายใน 90 วันนับแต่วันประกาศ เมื่อผู้ฝากยื่นคำขอแล้ว สถาบันต้องจ่ายเงินให้ผู้ฝากภายใน 30 วันเมื่อนำหลักฐานมาแสดงครบถ้วน ซึ่งการที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาการจ่ายคืนผู้ฝากไว้อย่างชัดเจน ก็เพื่อให้ผู้ฝากเกิดความมั่นใจว่าหากสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้วจะได้รับเงินฝากคืนอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อจ่ายคืนผู้ฝากแล้ว สถาบันคุ้มครองเงินฝากก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้ชำระบัญชี เพื่อที่จะนำทรัพย์สินต่างๆเหล่านั้นมาแปลงเป็นเงินสด เพื่อแบ่งให้กับผู้ฝากเงินที่มีวงเงินเกินกว่าการคุ้มครองอีกทีหนึ่งดังนั้น ภารกิจของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เป็นการช่วยบรรเทากรณีเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่การเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และยังช่วยลดภาระของภาครัฐในการเข้าแทรกแซงหรือช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจรายละเอียดต่างๆของสถาบันคุ้มครองเงินฝากสามารถติดตามหรือเสนอความคิดเห็นได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0400