นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานโครงการมอบทุนการศึกษาฯ มูลนิธิยุทธสาร ณ นคร เพื่อสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ความคืบหน้าโครงการ “การจัดทำแผนธุรกิจร้านค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2554 ที่ มูลนิธิยุทธสาร ณ นคร เพื่อสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ว่า ขณะนี้การจัดโครงการดังกล่าว ได้เข้าสู่รอบ 6 ทีมสุดท้ายแล้ว จากจำนวนนักศึกษาที่สมัครเข้าร่วมโครงการ 22 สถาบัน จำนวน 30 ทีม ได้มีการคัดเลือกให้เหลือ 13 ทีม และคัดให้เหลือ 6 ทีมสุดท้าย เพื่อตัดสินและประกาศผล มอบรางวัล ในเดือนมีนาคม 2555 นี้ โดยทั้ง 6 ทีม ที่เข้ารอบสุดท้ายประกอบด้วย 1.ทีม Green Life Society นักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงานร้านค้าปลีกอุปกรณ์เครื่องเขียน ทีมีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Eco LOGIE 2. ทีม GenVi นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผลงานร้านค้า GenVi ศูนย์รวมสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่คัดสรรเฉพาะสินค้าดีไซน์แปลกใหม่ 3.ทีม Natural Hijab นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ผลงานบริษัท Natural Hijab จำกัดผลิตภัณฑ์ผ้าคลุมศีรษะมุสลิม (Hijab) ที่ผลิตด้วยผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ 4. ทีม HU Team นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ผลงานแผนงานธุรกิจ “โครงการจัดตั้งร้านกรีนช้อป” 5. ทีม iGreen นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผลงาน นาการะ(NAKARA) ร้านค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 6.ทีม ร้านม่านฝ่าย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ ผลงานร้านม่านฝ้าย ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้ายทอมือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการ “การจัดทำแผนธุรกิจร้านค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นให้วงการธุรกิจตื่นตัว ในการสร้างร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นการปูพื้นความรู้ด้านธุรกิจรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่นิสิต นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย โดยสิ่งสำคัญที่นิสิต นักศึกษาในมหาวิทยาลัย จะต้องทำในโครงการนี้ คือต้องศึกษาและประยุกต์จัดทำและพัฒนาแผนธุรกิจร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นและประสบผลสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อความอยู่รอด ความก้าวหน้าและความยั่งยืนของธุรกิจให้ได้
นายวิชัยกล่าวว่า การคัดเลือกนักศึกษาที่เข้ารอบในการแข่งขันในปีนี้ ค่อนข้างยากมากขึ้น เนื่องจากเจออุปสรรคหลายๆ อย่าง ทั้งในเรื่องของภาวะอุทกภัย ทำให้นักศึกษาในหลายๆ ทีม มีเวลารวมทีมคิดแผนธุรกิจร่วมกันน้อย อีกทั้งในการตั้งโจทย์ในเรื่องของแผนงานร้านค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นมีความละเอียดอ่อน ต้องคิดทั้งในเรื่องของผลกำไรและต้นทุนในการบริหารงานให้มีความเหมาะสมและมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนักศึกษาจากหลาย ๆ ทีมโดยส่วนใหญ่ สามารถทำผลงานออกมาได้ดีมาก ทั้งในเรื่องของการเตรียมทีม การนำเสนอ และการเขียนโครงการมีการนำกลยุทธ์รูปแบบการบริหารงานด้านการตลาดและเชิงธุรกิจมาใช้อย่างครบถ้วน ซึ่งเชื่อว่าแผนงานร้านค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของนักศึกษาในปีนี้ จะเป็นประโยชน์กับสาธารณชนทั่วไป รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชน บริษัทเอกชน ห้างร้านต่าง ๆ และกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี สามารถนำไปประยุกต์ และนำไปใช้ประโยชน์ให้เหมาะสมกับองค์กรของตนได้ นายวิชัยกล่าวต่อว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้ จะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ Value Added Service และ Marketing Communication ของผลิตภัณฑ์หรือสินค้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริโภคในประเทศ พร้อมกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดในมุมมองใหม่ ๆ ของเยาวชนต่อสังคม และการตลาดธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแผนธุรกิจของร้านค้าผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เสนอ จะเป็นแนวทางเลือกใหม่ในการลงทุนของผู้ประกอบการ ที่ต้องการดำเนินธุรกิจที่สามารถประสบความสำเร็จได้และยังคืนกำไรให้แก่สังคมและผู้บริโภคด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในส่วนของเยาวชนต้องการกระตุ้นให้นิสิต นักศึกษา ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลรุ่นใหม่ มีจิตสำนึกเกี่ยวกับผลกระทบของการบริโภคต่อการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้เป็นกลุ่มเยาวชนของสังคมไทยที่มีส่วนร่วมในการปลูกจิตสำนึกด้านความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างค่านิยมในการบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ จะเป็นการปูพื้นความรู้ด้านธุรกิจตลาด รักษ์สิ่งแวดล้อม ให้แก่นิสิต นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ให้มีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างถูกต้องชัดเจน จนสามารถต่อยอดกิจกรรมได้ ทั้งที่ร่วมในโครงการครั้งนี้และโครงการอื่น ๆ เท่าที่มีโอกาสเปิดรับ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักธุรกิจหรือผู้ที่สนใจทั่วไป ได้มีโอกาสได้นำความคิดใหม่ ๆ ของนิสิต นักศึกษา นำไปจัดทำแผนในเชิงธุรกิจ และต่อยอดคิดค้นกลวิธีการเปิดร้านค้าผลิตภัณฑ์หรือผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ให้เกิดผลสำเร็จได้จริงเป็นลำดับต่อไป
สำหรับโครงการมอบทุนการศึกษาแก่นิสิต นักศึกษา โดยมูลนิธิยุทธสาร ณ นคร เพื่อสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทยนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้การสนับสนุนด้านการศึกษา ค้นคว้าและการวิจัยทางวิชาการ การจัดการเพื่อสาธารณประโยชน์ ในการที่จะมุ่งพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์สู่สังคม ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมูลนิธิฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทีมนักศึกษาที่ชนะเลิศจะได้รับทุนทัศนะศึกษา Low Carbon City ณ ประเทศเกาหลีใต้จำนวน 1 รางวัลมูลค่า 500,000 บาท รองอันดับหนึ่ง จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 100,000 บาทและรองอันดับสอง จำนวน 4 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท มูลค่า 160,000 บาท สำหรับผู้สนใจต้องการทราบรายละเอียดของโครงการสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่มูลนิธิยุทธสาร ณ นคร โทรศัพท์ 02-319-7675 — 8 ต่อ 204