เครือธนาคารกสิกรไทยกำไร 24,226 ล้านบาท เพิ่ม 20.85%

จันทร์ ๒๓ มกราคม ๒๐๑๒ ๑๐:๐๒
นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2554 จำนวน 24,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 4,179 ล้านบาท หรือ 20.85% โดยในปีนี้มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของสินเชื่อ และการจัดการโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ทำให้มีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.75% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 19.78% ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency Ratio) อยู่ที่ 47.53% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 เครือธนาคารกสิกรไทยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 1,722,940 ล้านบาท โดยมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,210,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 133,853 ล้านบาท หรือ 12.43% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ และเงินให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL Gross) อยู่ที่ระดับ 2.45 % ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 2.91% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับเงินรับฝากมีจำนวน 1,242,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 142,193 ล้านบาท หรือ 12.93% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำพิเศษที่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า

ตามที่ธนาคารและบริษัทย่อยได้เปิดเผยผลกระทบจากการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิทางภาษี เป็นร้อยละ 23 ในปี 2555 และร้อยละ 20 ในปี 2556 และ 2557 ตามมติคณะรัฐมนตรีไว้ในไตรมาส 3 ปี 2554 นั้น เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 ได้มีการประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาลดอัตราภาษีดังกล่าวแล้ว ทำให้ธนาคารและบริษัทย่อยต้องปรับตัวเลขภาษีเงินได้ที่เกิดจากรายการภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีเพียงครั้งเดียวในงบกำไรขาดทุนไตรมาส 4 ปี 2554 ตามที่มาตรฐานการบัญชีกำหนด และเนื่องจากเป็นการปรับรายการทางบัญชี จึงไม่มีรายการจ่ายจริงให้แก่กรมสรรพากร และไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ความสามารถในการทำกำไร และเงินกองทุนของธนาคารแต่อย่างใด ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ