นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการของธนาคารในปี 2554 เปรียบเทียบกับปี 2553 ว่าธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 36,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,759 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 หลังหักสำรองหนี้สูญ ขาดทุนจากการด้อยค่าและภาษีเงินได้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 17,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,099 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีสาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 50,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,616 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 11,373 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,039 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า พอใจกับผลประกอบการที่สูงกว่าเป้าหมายและโดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยมีกำไรก่อนสำรองหนี้สูญฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 จากปี 2553 และจากผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมากดังกล่าว จึงตัดสินใจเสริมสร้างค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้มากขึ้นตามเกณฑ์ระมัดระวัง ด้วยการกันสำรองหนี้สูญฯ จำนวน 13,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,420 ล้านบาท หรือร้อยละ 121 จากปี 2553 โดยการกันสำรองเพิ่มในไตรมาสที่ 3 และ 4 นอกเหนือจากสำรองหนี้สูญฯ ตามปกติจำนวน 500 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งส่งผลให้ NPLs Ratio (net) ปรับปรุงดีขึ้น โดยลดลงจากร้อยละ 3.03 เหลือร้อยละ 2.25 สะท้อนงบดุลของธนาคารที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ณ 31 ธันวาคม 2554 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ 1,423,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175,333 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากสิ้นปี 2553 มีเงินฝาก 1,285,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37,339 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากสิ้นปี 2553 คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 64,185 ล้านบาท ลดลง 12,157 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 16 จากสิ้นปี 2553 ธนาคารมีเงินกองทุนรวม 189,283 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.72 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 119,631 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.67 ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์
โทร. 0-2208-4174-7