นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปี 2555 นับเป็นก้าวที่สำคัญของเกียรตินาคิน ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อร่วมกิจการกับบริษัททุนภัทร จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน-ภัทร ซึ่งภายในไตรมาส 1 นี้ ธนาคารจัดประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมกิจการ ซึ่งคาดว่ากระบวนต่างๆ จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
หากพิจารณาปัจจัยแวดล้อมทางภาวะเศรษฐกิจ นับว่าเป็นปีที่ท้าทาย โดยฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน (Kiatnakin Intelligence: KKI) มองว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะชะลอตัวต่ำกว่าที่ทุกฝ่ายคาดไว้ เนื่องจากหลังจากทุกวิกฤต เศรษฐกิจไทยจะหดตัวอย่างน้อย 2 ไตรมาส รวมถึงความเชื่อมั่นจะลดลงจนทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ขณะที่ดอกเบี้ยน่าจะเป็นขาลง ทำให้ต้นทุนในการระดมเงินฝากลดลง อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บเงินนำส่งจากฐานเงินฝากและตั๋วแลกเงิน (บีอี) ของธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม จะทำให้ต้นทุนเงินฝากและเงินกู้ยืมของธนาคารไม่ลดลง ส่วนผลกระทบที่มีต่อลูกค้าสินเชื่อของธนาคารจากสถานการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา คาดว่ามีประมาณ 9-11% ของสินเชื่อรวม ซึ่งหลังได้รับการผ่อนปรนชำระหนี้และมาตรการช่วยเหลือต่างๆ แล้ว คาดว่าทั้งหมดจะกลับมาเป็นปกติ
จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น ธนาคารได้ประเมินแผนงานในภาพรวม โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อรวมในปี 2555 นี้ อยู่ที่ 21% โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของสินเชื่อรายย่อย 22% และสินเชื่อธุรกิจ 19% สำหรับเงินฝากตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเงินฝากกระแสรายวันและเงินฝากออมทรัพย์เป็น 20% ของเงินฝากและเงินกู้ยืมรวม”
ในส่วนของบริหารทรัพย์สินรอขาย (เอ็นพีเอ) ในปีนี้ ตั้งเป้าจำหน่ายเอ็นพีเอ 3.5 พันล้านบาท ล่าสุด จัดแคมเปญพิเศษ “KK บินลัดฟ้า พาเที่ยว” สำหรับลูกค้าที่ซื้อเอ็นพีเอจากธนาคารเกียรตินาคิน ตั้งแต่ 16 มกราคม — 25 พฤศจิกายน 2555 พร้อมยอดสะสมตั้งแต่ราคา 30-100 ล้านบาท และโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2555 จะได้รับโปรแกรมท่องเที่ยวเป็นคู่ สู่ 4 ประเทศในฝัน อาทิ ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นแคมเปญระยะยาว ลูกค้าสามารถสะสมยอดการซื้อทรัพย์ฯ กับธนาคารได้ทั้งปี (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kiatnakin.co.th/kkasset)
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เตรียมเข้าร่วมงานอีก 2 กิจกรรมใหญ่ ได้แก่ มหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 2 Money Expo Hatyai 2012 เระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2555 จัดที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน (ธนาคาร และบริษัทหลักทรัพย์) ได้ร่วมจัดแคมเปญพิเศษ “ทุกความคิดเป็นไปได้” สำหรับชาวใต้ เพื่อให้ทุกความคิดทางการเงินเป็นไปได้ ซึ่งจะนำเสนอรายละเอียดใกล้ๆ วันงานอีกครั้ง ถัดไปคืองานFIRST AUTO SHOW THAILAND 2012: FAST (มหกรรมรถคันแรก ครั้งที่ 1) โดยธนาคารได้ร่วมกับสื่อสากล และอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ในการจัดงานระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ — 4 มีนาคม 2555 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ภายในงานจะมีการจัดแสดงทั้งในส่วนรถยนต์ใหม่และรถมือสอง
ในส่วนของผลประกอบการปี 2554 เทียบกับปี 2553 ธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 2,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 11.2% ส่วนสินทรัพย์รวมมีจำนวน 189,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.4% ทั้งนี้ ธนาคารประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ โดยมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อรวมอยู่ที่ 26.5% จากเป้าหมาย 24% จากความสำเร็จในการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ที่ 3.5% ลดลงจาก 4.6% และมีอัตราการตั้งสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 108.1% เพิ่มขึ้นจาก 85.2% ในปีก่อนหน้า สำหรับหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) มีจำนวน 165,731 ล้านบาท
ยอดการปล่อยเงินให้สินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2554 อยู่ที่ 135,749 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 26.5% จากสิ้นปี 2553 โดยสินเชื่อธนาคารรายย่อย มียอดรวมอยู่ที่ 103,210 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อธุรกิจ มียอดรวมที่ 30,491 ล้านบาท และสินเชื่อสายบริหารหนี้ อยู่ที่ 1,601 ล้านบาท และลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ 446 ล้านบาท