สืบเนื่องจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบพยานหลักฐานน่าเชื่อว่านายพรเทพและนางสาวอารดาตกลงหรือร่วมรู้เห็นกับนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่นสร้างราคาหุ้นบริษัทเมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (“METRO”) ระหว่างวันที่ 19 กันยายน - 30 พฤศจิกายน 2549และหุ้นบริษัท ไทยยูนีคคอยล์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (“TUCC”) ระหว่างวันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2550และตกลงหรือร่วมรู้เห็นกับนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ และนายสมชาย ศรีพยัคฆ์
ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่นสร้างราคาหุ้นบริษัท เอส.อี.ซี ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“SECC”) ระหว่างวันที่ 12 กันยายน - 24 พฤศจิกายน 2551 ในลักษณะอำพราง เพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหุ้นนั้นมีการซื้อขายกันมาก หรือราคาหุ้นนั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่อง อันเป็นผลทำให้การซื้อหรือขายหุ้นนั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อขายหุ้นนั้น รวมทั้งมีการจับคู่ซื้อขายโดยบุคคลที่ได้ประโยชน์เป็นบุคคลเดียวกันโดยมีนายประยุทธ์ นายนฤพล และนางสาวลัดดาให้ความช่วยเหลือโดยยินยอมให้ใช้บัญชีซื้อขายหุ้นของตนเองเพื่อสร้างราคาหุ้น METRO และ TUCC รวมทั้งนายประยุทธ์และนายนฤพลยังได้ให้ความช่วยเหลือโดยยินยอมให้ใช้บัญชีซื้อขายหุ้นของตนเองเพื่อสร้างราคาหุ้น SECC อีกด้วย
การกระทำของนายพรเทพและนางสาวอารดาเข้าข่ายเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดตามมาตรา 243(1)ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ส่วนการกระทำของนายประยุทธ์ นายนฤพล และนางสาวลัดดา เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งบุคคลทั้ง 5 ราย ได้แสดงความจำนงเข้ารับการพิจารณาเปรียบเทียบความผิดจากคณะกรรมการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ แต่ต่อมาไม่เข้ารับการพิจารณาเปรียบเทียบความผิด ทำให้คดีอาญายังไม่ยุติ ก.ล.ต. จึงต้องกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพิ่มเติมจากที่ได้กล่าวโทษนายสุริยา นายสมพงษ์และนายสมชาย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษในความผิดดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “คดีนี้เป็นที่น่าเสียใจที่พบว่าบุคลากรระดับผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์มีส่วนร่วมในพฤติกรรมการสร้างราคาหลักทรัพย์ ก.ล.ต. จึงได้บังคับใช้กฎหมายกับบุคคลกลุ่มนี้อย่างเคร่งครัด ซึ่งการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. มีผลให้นายพรเทพและนางสาวอารดาเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน และเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี นอกจากนี้ เนื่องจากปัจจุบันนางสาวอารดาได้รับความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ก.ล.ต. จึงได้เพิกถอนการได้รับความเห็นชอบดังกล่าวด้วย”