ซึ่งงานนี้ สาวอุ้ย เปิดใจกับสามีถึงชีวิตคู่ของตัวเองว่า “เรียกว่าเป็นคู่แท้เลยดีกว่า เพราะเราใจตรงกันตลอด เราอยากกินอะไร อยากทำอะไร มันจะมีเหตุบังเอิญให้เค้าเอามาให้เราทุกครั้ง อุ้ยเจอเค้าเพราะเราเดินแบบชุดงานแต่งงานการกุศล และเค้าก็มาเป็นนายแบบชุดเจ้าบ่าว หลังจากนั้นอีก 2 ปีเราก็แต่งงานกันในวันที่เราเจอกันครั้งแรก เราคบกันเหมือนเป็นเพื่อน อุ้ยจะไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชาย เราคุยกันสบายใจทีเราอยู่กับเค้า เค้าก็พูดกับเราตรงๆ คุยกันตลอด จนเราตัดสินใจที่จะแต่งงานและเป็นแม่บ้าน ทิ้งงานทุกอย่าง ทั้งงานในวงการ งานประจำที่เราทำ
แต่มันก็มีบางครั้งที่เรารู้สึกขาดอิสรภาพ เพราะเรื่องการแต่งตัวเค้าก็จะไม่เข้าใจว่าเราแต่งแฟชั่นทำไม เวลาผ่านไป 7-8 ปีที่หายไปอยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำหน้าที่แม่บ้านที่ดี เวลามีอะไรเราบอกสามีตลอดเพราะเราไม่อยากมีเรื่องทะเลาะ แต่บางครั้งมันก็รู้สึกกดดัน สามีทำงานต้องเดินทางบ่อย ทำให้เราก็ต้องอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง
แต่สิ่งที่เค้าทำให้อุ้ย และ ลูก เค้าทำอะไรให้เราด้วยตัวเองตลอด ตั้งแต่แต่งงานจนถึงปัจจุบันนี้เค้าก็ยังเสมอต้นเสมอปลาย ไปทำงานกลับมาเค้าก็ยังมาดูแลเรา กลับจากทำงานก็มาทำกับข้าว มาดูแลเราทุกอย่าง เรียกว่าเป็นสามีที่เพอร์เฟคที่สุด มันคุ้มที่เราตัดสินใจที่จะแต่งงาน ทิ้งความฝันของเรา และภูมิใจที่เค้าพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเรา และขอบคุณที่เค้าดูแลเราตลอดค่ะ”
เรียกว่าเป็นคู่รักที่น่ารัก และเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ เรียกว่าบรรยากาศในสตูดิโออบอวลไปด้วยความรักของทั้งคู่จริงๆ มาติดตามชมเรื่องราวน่ารักสุดโรแมนติคเหล่านี้ได้ ในรายการ “ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์” ในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.นี้ เวลา 22.30 น. ทาง ททบ.5