นายกศิปัญญ์ ศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย “แผ่นผนัง อลูมิเนียมคอมโพสิท ไส้กลางกันไฟ” ที่ใช้ตกแต่งอาคารที่อยู่อาศัยและสำนักงานภายใต้ชื่อ “อัลพอลลิค เอฟ อาร์” (ALPOLIC?/fr) จาก มิตซูบิชิ พลาสติกส์ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น (Mitsubishi Plastics Inc., Japan) เปิดเผยถึงความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจ 15 ปี ของ บี.เอฟ.เอ็ม. ว่า บริษัทฯ มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง 5 ปี เฉลี่ย 20 % ต่อปี โดยเป็นผู้นำอันดับ 1 ผลิตภัณฑ์ “กรีนโปรดักส์” ของตลาดแผ่นผนังอลูมิเนียม คอมโพสิท ในประเทศไทย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 30 % ของมูลค่าตลาดรวม 1,000 — 1,200 ล้านบาท
“ปี 2555 บี.เอฟ.เอ็ม.มีแผนมุ่งเจาะตลาดใหม่ไปยังกลุ่มตลาดทดแทนสีทาอาคารซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 13,000 ล้านบาท โดยมุ่งเข้าไปเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาใช้แผ่นผนังอลูมิเนียมคอมโพสิททดแทน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นที่ความสวยงามคงทนต่อสภาพแวดล้อมและรับประกัน 20 ปี สามารถป้องกันความชื้นจากภัยน้ำท่วมและป้องกันไฟจากอัคคีภัยได้ จึงเป็นวัสดุที่ช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสถาปัตยกรรมยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากตลาดกลุ่มนี้ประมาณ 600 ล้านบาทภายใน 5 ปี ล่าสุด บริษัทฯได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัท โรงงาน และที่อยู่อาศัยที่ประสบเหตุอุทกภัยเพื่อใช้ซ่อมแซมผนังอาคารทดแทนสีเป็นจำนวนมากเนื่องจากความสวยงามและคงทน” นายกศิปัญญ์ กล่าว พร้อมให้รายละเอียดด้วยว่า
บริษัทฯ ยังได้รุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยตลาดในประเทศจะขยายต่อไปยังกลุ่มอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนท์แห่งใหม่ ฯลฯ และพร้อมขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 (AEC) โดยตั้งเป้าขยายไปยังกลุ่มประเทศในอาเซียนอย่างก้าวกระโดด ฯลฯ หลังจากที่ได้ขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชาและพม่าจนประสบความสำเร็จได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวจากบริษัท มิตซูบิชิ พลาสติกส์ อิงค์ จากญี่ปุ่น
“บี.เอฟ.เอ็ม. ได้ตอกย้ำความสำเร็จการเป็นผู้นำตลาด “กรีนโปรดักส์” ด้านวัสดุตกแต่งอาคาร โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ “โคลท์” (COLT) จากประเทศอังกฤษในปี 2554 ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นวัสดุเกล็ดอลูมิเนียมระบายอากาศ และวัสดุแผงกันแดดอัจฉริยะสำหรับอาคาร วัสดุเกล็ดอลูมิเนียมสามารถระบายอากาศได้กว่า 40 % และป้องกันน้ำฝนเข้าอาคารได้ 100% และแผงกันแดดสามารถป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคารได้มากกว่า 80 % เพราะควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เปิดปิดได้ตามเส้นทางการเดินทางของแสงอาทิตย์ และระบบอัตโนมัติ จึงทำให้ช่วยลดการใช้ระบบปรับอากาศ
บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 2555 ไว้ที่ 400 ล้านบาท เติบโต 20 % จากปี 2554 ที่มียอดขายรวม 335 ล้านบาท และภายในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำเข้านวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่จากต่างประเทศเข้ามาเจาะตลาดวัสดุตกแต่งอาคารภายในปีนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด “กรีนโปรดักส์” ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ บี.เอฟ.เอ็ม. ได้ขยายงบประมาณการลงทุนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อใช้ในก่อสร้างโชว์รูมแสดงสินค้า การขยายบุคลากร และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการขาย
ปัจจุบัน บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด เป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งของไทยในการจำหน่ายแผ่นผนังอลูมิเนียมคอมโพสิทไส้กลางกันไฟสำหรับอาคารที่อยู่อาศัยและสำนักงาน ด้วยคุณสมบัติพิเศษหนึ่งเดียวในโลกของ “อัลพอลลิค เอฟ อาร์” สามารถป้องกันไฟจากภัยอัคคีภัยและป้องกันความชื้นจากภัยน้ำท่วม และยังมีความคงทนของสีซึ่งรับประกันนานถึง 20 ปี มีผลงานในโครงการใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 9 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ อาคารจัตุรัสจามจุรี อาคารบางกอกซิตี้ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย The Met คอนโดมิเนียม เดอะรูม คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 62 และลาดพร้าว ไอดีโอ เวิร์ฟ คอนโดมิเนียม อ่อนนุชและราชปรารภ โรงแรมโนโวเทล อิมแพค โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม สุขุมวิท โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช ฯลฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณสุนีรัตน์ เงินพูลทรัพย์
คุณสิริลักษณ์ เตชนรเศรษฐ์กุล
บริษัท ไอเดียลิสท์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 0-2509-0629, 081-614-0923 โทรสาร. 0-2509-0629
Email: [email protected], [email protected]
www.idealist.co.th