กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป
บริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด จัดงาน รักลูกFestival 2005 ในแนวคิดที่ว่า “Learning Family is Smart Family” ร่วมค้นหาคำตอบที่ว่า ครอบครัวเรียนรู้...เพื่อก้าวสู่การเป็นครอบครัวเข้มแข็ง ในระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2548 ณ Hall 1-2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในการจัดงานครั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมดีๆมีเนื้อหาสารมากมาย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เรียนรู้ร่วมกัน
คุณสุภาวดี หาญเมธี กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการอำนวยการสื่อในเครือบริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า สำหรับการจัดงานรักลูก Festival 2005 เราใช้ Concept ว่า “ครอบครัวเรียนรู้..เพื่อก้าวสู่การเป็นครอบครัวเข้มแข็ง” ส่วนที่มาของ Concept นี้ เกิดจากการมอง 2 ด้าน คือ การมองด้านที่เป็นปัญหา และการมองด้านที่ควรจะก้าวไป
การมองด้านที่เป็นปัญหา ก็เป็นที่รู้กันว่าขณะนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ยุคแต่ละยุคก็มีช่วงที่สั้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นก่อนยุคอุตสาหกรรม ก็มีมาร้อยกว่าปี แต่พอมายุคข่าวสารก็แค่ 20 กว่าปีมายุคดิจิตอล ก็เริ่มมาได้ไม่นาน และขณะนี้ก็กำลังจะเข้าสู่ยุคของ Creative เพราะฉะนั้นการเคลื่อนตัวของโลกที่รวดเร็ว ทำให้พ่อแม่เกิดความกังวลใจ ส่วนปัญหาที่พ่อแม่กังวลก็คือ การติดตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันหรือไม่ โดยเฉพาะกับลูกๆ พ่อแม่จะห่วงว่าเขาจะตามทันโลกหรือไม่
ซึ่งความกังวลใจดังกล่าว ทำให้พ่อแม่เกิดปฏิกิริยากับตัวเอง พ่อแม่ก็จะต้องรีบเร่งที่จะให้ลูกหาความรู้เพิ่มมากขึ้น อะไรก็ตามที่มีความรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการทำมาหากิน การแข่งขัน การเร่งให้เด็กๆ เรียนมากๆ ทำให้ระบบการเรียนรู้ ระบบชีวิต และผลที่จะเกิดขึ้นในครอบครัวไม่เกิดประโยชน์ และไม่สอดคล้องกับวิถีความเป็นอยู่ จากจุดเหล่านี้ทำให้พบว่า เราจะต้องช่วยกันเตือนสติกัน ในเรื่องการรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น
การมองด้านที่ควรจะก้าวไป เมื่อรู้ปัญหาแล้ว เราจึงเชื่อต่อว่า คนทุกคนมีศักยภาพที่จะเข้าใจโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่จะทำอย่างไรให้ความเข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงนี้ไม่ผิดเพี้ยนไป และสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ทัน ดังนั้นครอบครัวจะต้องตั้งสติได้และจัดกระบวนการในครอบครัวของตัวเองให้เหมาะกับสิ่งที่เปลี่ยนไป รู้ทันสถานการณ์ จากการมอง 2 ด้าน ที่เข้ามาบรรจบกัน ในที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเห็นผลด้านลบ หรือคาดหวังผลด้านบวก ผลสรุปก็คือ ครอบครัวจำเป็นจะต้องมีการเรียนรู้ เพราะหากไม่มีการเรียนรู้ ก็จะปรับตัวไม่ได้
การเรียนรู้ไม่ได้หมายถึงการติดตามข่าวสารว่าโลกไปถึงไหนกันเท่านั้น หรือเราจะรู้ทันสถานการณ์เหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งการติดตามสิ่งต่างๆ เป็นเพียงแค่การรับรู้ แต่การรับรู้แบบนี้ บางครั้งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริง เหมาะหรือไม่เหมาะกับเราก็ได้ ขณะเดียวกัน เราพบว่า การสื่อสารต่างๆ ที่เข้ามามีหลายแบบ หลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบงานวิชาการ ส่งเสริมพัฒนางานวิชาการ การค้าขาย จึงเป็นการยากที่เราจะแยกแยะสิ่งที่เรารับรู้ สาระทั้งหลาย จะเป็นประโยชน์กับเราหรือไม่
ดั้งนั้น ครอบครัวจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้ นอกจากการเรียนรู้แล้ว เราจะต้องมีกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพราะในความเป็นจริงมนุษย์จะเรียนรู้ได้ผลหรือไม่นั้น จะต้องเริ่มที่ตัวเราเอง การที่เราจะเป็นครอบครัวเรียนรู้นั้น จำเป็นจะต้องมีหลักของครอบครัวก่อน เช่น หลักคิดคุณธรรม หลักความสัมพันธ์ในครอบครัว ครอบครัวมีความหมายมีคุณค่าต่อเราแบบไหน ปลายทางแห่งความสำเร็จของครอบครัวอยู่ที่ใด ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องเริ่มจากตัวเอง จึงจะทำให้เกิดชัดเจนในการเลือกรับข่าวสารสาระที่มีเข้ามามากมายหลากหลายได้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
สำหรับ Theme ของงานรักลูกเฟสติวัล คือ การมองไปข้างหน้า แล้วมองกลับมาที่ตัวเอง และจากการทำงานด้านสื่อ โดยเฉพาะในปีนี้ที่เราได้ลงไปทำงานกับพ่อแม่ในชุมชนชนบท ทำให้เราเห็นชัดขึ้น และจากการทำงานด้านสื่อมากว่า 20 ปี เราคงต้องยอมรับว่า สภาพของวิถีชีวิตในเมืองไม่สามารถทำให้เราเข้าไปผลักดันหรือสนับสนุน เกื้อกูลการปรับตัวของคนในครอบครัวได้มากนัก นอกจากการพบกันโดยวิธีการเสนอผ่านสื่อ หรือพบเจอกันบ้างเป็นครั้งคราวในงานสัมมนา แต่เมื่อเราลงไปทำงานกับชุมชน เราพบว่าเนื้องานถูกเกาะกลุ่มกันโดยความเป็นชุมชน เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดกิจกรรมขึ้นในชุมชน สิ่งที่เราเห็นคือ การปรับตัวของพ่อแม่มีความต่อเนื่อง มีปัจจัยที่เข้ามาเกื้อหนุนกัน
ซึ่งความชัดเจนจากที่เราได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ และเด็กๆ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อย่างไม่น่าเชื่อ บวกกับกระบวนการที่ใช้ในการจัดเวทีนั้นมีประสิทธิผล เรื่องราวที่เราได้จากชุมชนทำให้เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องนำสิ่งเหล่านี้มาพูดกันทั่วไปให้ชัดเจน ว่า Smart Family ก็คือ ครอบครัวที่จะยืนอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ฉลาด รู้ทันสถานการณ์ต่างๆ นอกจากนั้นครอบครัวจะต้องเป็นหนึ่งเดียว มีหลักคิดคุณธรรม มีเป้าหมายร่วมกัน รู้จักดูแลตนเอง ช่วยกันทำงานเป็น Team Work คนละไม้คนละมือ และสุดท้ายคือจะต้องมีวิธีคิดที่เป็นระบบ มองเห็นและคัดกรองเรื่องราวต่างๆ ที่เข้าสู่ครอบครัวของเราได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกิจกรรมในงานรักลูกเฟส ไม่ได้มีเรื่องหลักคิดเพียงอย่างเดียว เรายังมีหลักปฏิบัติให้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกๆท่าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับแม่ตั้งครรภ์ แม่ลูกอ่อน การเลี้ยงลูก การดูแลครอบครัว กิจกรรมที่ช่วยพัฒนาเด็กแต่ละช่วงวัย เพื่อชวนให้พ่อแม่ได้คิดในเรื่องการเรียนรู้ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระและความสนุกสนาน เป็นประโยชน์ต่อทุกคนในครอบครัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื้อหาสาระจะเป็นประโยชน์ได้ ก็ต่อเมื่อครอบครัวได้นำไปผนวกหรือยึดกับแกนหลักของความเป็นครอบครัวที่เรียกว่า Learning Family ทำให้ประโยชน์ที่ได้มาก็จะนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีแต่ความรู้ มีแต่ข้อมูล แต่เราไม่สามารถตั้งแกนหลักได้ ความรู้ที่มีเราอาจจะนำไปใช้ได้อย่างไม่เต็มที่เท่าที่ควร ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ที่ข้ามาร่วมเรียนรู้ในงานรักลูกเฟสฯ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จะได้ร่วมทบทวน และเกิดพลังที่จะร่วมกันดูแลครอบครัวของตนเองได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด
โสภิดา ธนสุนทรกูร (แบม) พิชญ์สินี พงษ์จงมิตร (เอ)
สายไหม พึ่งพงษ์ (ไหม) ทิพสุคนธ์ เภาโบรมย์ (ขวัญ)
โทรศัพท์ 0 2913 7555 ต่อ 4640 ,3220 และ 3531
โทรสาร 0 2831 8499--จบ--