แนวโน้มความสุขมวลรวม (Gross Domestic Happiness, GDH) ของคนไทยภายในประเทศ ประจำเดือนมกราคม 2555: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ

อังคาร ๐๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๒ ๑๕:๑๑
นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิจัยประจำ ศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือ ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง แนวโน้มความสุขมวลรวม (Gross Domestic Happiness, GDH) ของคนไทยภายในประเทศ ประจำเดือนมกราคม 2555 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สุพรรณบุรี เชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัย เพชรบูรณ์ นครราชสีมา สุรินทร์ อุบลราชธานี ขอนแก่น หนองคาย นครศรีธรรมราช นราธิวาส และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 3,231 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 23 มกราคม — 4 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนตัวอย่างระดับครัวเรือน ช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า

จากการประเมินความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศหรือที่เรียกว่า GDH ประจำเดือนมกราคม 2555 นั้น พบว่า เมื่อคะแนนความสุขมวลรวมเต็ม 10 คะแนน ความสุขของประชาชนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.55 คะแนน ปลายเดือนอยู่ที่ 6.80 คะแนน และล่าสุดความสุขมวลรวมประจำเดือนมกราคม 2555 ของคนไทยภายในประเทศลดลงมาอยู่ที่ 6.66 คะแนน

โดยมีปัจจัยด้านลบที่ฉุดทำให้ความสุขของประชาชนลดลงมีอยู่สองปัจจัยสำคัญได้แก่ สถานการณ์การเมืองโดยรวมของประเทศ เช่น ความขัดแย้งเรื่องการแก้กฎหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปรับคณะรัฐมนตรี และความขัดแย้งแตกแยกทางการเมืองในหมู่ประชาชน เป็นต้น ทำให้ความสุขมวลรวมของประชาชนทั้งประเทศด้านสถานการณ์การเมืองอยู่ที่เพียง 4.27 คะแนน และปัจจัยลบประการที่สองได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เช่น ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นแต่รายได้เท่าเดิม รายได้ลดลง ค่าครองชีพสูง หนี้สินเพิ่ม และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น ทำให้ความสุขมวลรวมของประชาชนทั้งประเทศด้านเศรษฐกิจระดับครัวเรือนอยู่ที่ 4.39 คะแนนเท่านั้น

ส่วนปัจจัยบวกที่สำคัญคือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทำให้ความสุขมวลรวมของประชาชนทั้งประเทศอยู่ที่ 9.29 คะแนน และตามด้วยบรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอยู่ที่ 8.14 สุขภาพใจอยู่ที่ 7.93 สุขภาพกายอยู่ที่ 7.90 และรองๆ ลงไปคือ วัฒนธรรมประเพณีไทยในปัจจุบัน การเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ที่ดี หน้าที่การงาน อาชีพ บรรยากาศของคนในชุมชน เช่น การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สภาพแวดล้อมที่พักอาศัย เช่น ถนน ไฟฟ้า น้ำปะปา โทรศัพท์ เป็นต้น และระบบการศึกษาของประเทศ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า มีความน่าเป็นห่วงในเรื่องความแตกต่างระหว่างข่าวสารของสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศกับสภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือนของประชาชน เพราะอาจเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่จริงหรืออาจเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบกระจุกตัวอยู่กับคนเฉพาะกลุ่มที่เป็นคนส่วนน้อยของประเทศ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือนของประชาชนส่วนใหญ่ยังมีปัญหาว่า ค่าใช้จ่ายสูงแต่รายได้เท่าเดิม รายได้ลดลง หนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ต้องพึ่งพาผู้อื่น จึงจำเป็นต้องทำให้ความสุขของประชาชนต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและสภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือนของประชาชนไม่แตกต่างกันมากนัก

“อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.8 ให้โอกาส นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำงานต่อไปในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเพิ่งเริ่มต้นทำงานได้ไม่นานและโดยธรรมชาติของคนไทยส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่ให้โอกาสคนถ้าไม่ได้เป็นปัญหามากจนเกินไปสำหรับประเทศชาติและคนไทยส่วนใหญ่ไม่อยากเห็นความแตกแยกวุ่นวายเกิดขึ้นในสังคม” นางสาว ปุณทรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิจัยประจำ ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าว

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่างร้อยละ 51.0 เป็นหญิง ร้อยละ 49.0 เป็นชาย ตัวอย่างร้อยละ 5.1 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 23.9 อายุ 20 — 29 ปี ร้อยละ 25.6 อายุ 30 — 39 ปี ร้อยละ 25.3 อายุ 40 — 49 ปี และร้อยละ 20.1 อายุ 50 ขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 88.2 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 10.7 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 1.1 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 38.6 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 34.9 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 6.3 ระบุอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 4.4 ระบุอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 6.9 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 6.2 เป็นนักเรียนนักศึกษา ในขณะที่ร้อยละ 2.7 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ