ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจว่าสนามกีฬาจะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จ ทันในพิธีเปิดการแข่งขันอย่างแน่นอน เนื่องจากได้เชิญนายชนะชัย ลีนะบรรจง กรรมการบริหารบริษัท อีเอ็มซี จำกัด(มหาชน) มาหารือการก่อสร้าง เพื่อปรับเทคนิคและแผนการก่อสร้างให้สอดคล้องกับเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งบริษัทฯได้เสนอแผนงานและเทคนิค วิธีการก่อสร้างใหม่ ภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วมได้กระทบต่อแผนการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้มอบให้กทม.เป็นเจ้าภาพ ซึ่งกทม.ได้กำหนดก่อสร้างบนพื้นที่ของศูนย์เยาวชนหนองจอก ซึ่งจะใช้เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นอาคารยิมเนเซียมในร่มขนาดความกว้าง 116 ม. ยาว 132 ม. มีอัฒจันทร์ 5 ชั้น(หรือความสูง 25 ม. )มีจำนวนที่นั่งชม 12,500 ที่นั่ง
จากนั้นม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การสร้างสนามให้แล้วเสร็จกำหนดเวลามีความกดดันอยู่แล้ว เพราะกทม.ผลักดันโครงการดังกล่าวมาโดยตลอด แต่มาเสียเวลาในช่วงที่น้ำท่วม ซึ่งพื้นที่หนองจอกก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ขณะเดียวโรงงานผลิตเสาเข็มที่จ.ปทุมธานี ก็ประสบปัญหา แต่กทม.ตั้งใจพยายามทำให้ก่อสร้างแล้วเสร็จตามเวลา อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากรัฐบาลในการเบิกจ่ายงบประมาณให้มีความรวดเร็ว รวมทั้งผู้รับเหมา จะต้องเร่งมือทำงานเป็น 2 เท่า เพราะติดขัดในเงื่อนไขของเวลา ส่วนกทม. ก็จะเร่งตรวจสอบโครงสร้างเช่นกัน ซึ่งทางฟีฟ่าก็จะมาตรวจการก่อสร้างเร็วๆนี้ด้วย
“ยืนยันว่าการก่อสร้างจะต้องเสร็จให้ทัน เพราะไม่ได้เป็นหน้าตาของกทม. แต่เป็นหน้าตาของประเทศ ส่วนแผนสำรองหากไม่สามารถใช้ในพิธีเปิดได้ ผมยังไม่อยากพูดถึง เพราะผมยังเชื่อว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จแน่”ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัทอีเอ็มซี จำกัด(มหาชน)ที่เป็นบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล มีวงเงินก่อสร้างประมาณ 1,239 ล้านบาท โดยสนามกีฬาฟุตซอลที่จะก่อสร้างจะอยู่บนพื้นที่ของศูนย์ฝึกอบรมข้าราชการกทม.เขตหนองจอก ใช้เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ โดยรูปแบบสนามเป็นอาคารยิมเนเซียมในร่มขนาดความกว้าง 116 ม. ยาว 132 ม. มีอัฒจันทร์ 5 ชั้นหรือความสูง 25 ม. จำนวนที่นั่งชม 12,500 ที่นั่ง มีกำหนดแล้วเสร็จปลายเดือนต.ค.นี้