คต. ดันใช้ประโยชน์ FTA ปี 54 ยอดทะลุ 4 หมื่นล้านเหรียญ

ศุกร์ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๒ ๑๕:๔๐
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ส่งออกภายใต้ความตกลง FTA ในปี 2554 มีมูลค่าสูงถึง 39,944.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 กว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.95 จากปี 2553 ที่มีมูลค่าเพียง 34,155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วนการใช้สิทธิร้อยละ 61.30 ของมูลค่าการส่งออกเฉพาะรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ เพียงร้อยละ 56.79 โดยเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) เป็นกรอบความตกลง FTA ที่มีมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิฯ สูงสุด ด้วยมูลค่าสูงถึง 15,181.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออกของประเทศไทยในภาพรวม ที่ตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนกลายเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ของไทย ทดแทนตลาดเดิมอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

ด้านกรอบความตกลง FTA ที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจกันมาใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึงร้อยละ 90.82 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึงร้อยละ 84.29 ความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย (TIFTA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึงร้อยละ 74.61 ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ถึงร้อยละ 71.18 ตามลำดับ โดยมีข้อสังเกตว่าความตกลง FTA ที่ประเทศไทยลงนามสองฝ่ายต่างก็มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าที่สูงมาก

ส่วนข้อกังวลของกรมการค้าต่างประเทศเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า คือ ผู้ประกอบการไทยบางส่วนไม่สามารถใช้สิทธิ FTA ได้ เพราะไม่สามารถผลิตสินค้าให้เป็นไปตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าที่ไทยได้ทำความตกลงไว้กับประเทศคู่ภาคี โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่เป็นสินค้าส่งออกหลักไปต่างประเทศของไทย เนื่องจากต้องนำเข้าชิ้นส่วนวัตถุดิบจากประเทศนอกภาคีความตกลงฯ มาผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อส่งออก ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องปรับตัวและใช้วัตถุดิบจากประเทศคู่ค้าที่ทำความตกลง FTA กับไทย เพื่อให้สามารถสะสมแหล่งกำเนิดสินค้าได้

นายมนัสฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ระบบ FTA เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่ยังมีข้อจำกัดทางด้านปัจจัยการผลิตทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้หากต้องเผชิญกับอัตราภาษีปกติ นอกจากนี้ สิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้ความตกลง FTA มีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าของไทย รวมทั้งเป็นส่วนเสริมที่จะช่วยขยายโอกาสในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศได้ด้วย

นายสุรศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า ในปี 2555 นี้ กรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าที่ประเทศไทยได้รับจากประเทศคู่ภาคี มีกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า อาทิเช่น การจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มองค์ความรู้และขีดความสามารถผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพมหานครและตามจังหวัดต่างๆ ให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจากการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดงานส่งเสริมการใช้สินค้า FTA โดยเฉพาะเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ส่งออกที่ประสงค์จะขอใช้สิทธิพิเศษทางการค้าส่งออก สามารถสอบถามข้อมูลและติดตามข่าวสารทางการค้าเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385 หรือ http://www.dft.go.th รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทรศัพท์ 02-5474771-86 ต่อ 4755 โทรสาร 02-5474816 หรือ e-mail: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ