ริเวอร์เบด เทคโนโลยี อิงค์ (NASDAQ: RVBD) ผู้ผลิตโซลูชันสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพระบบไอที ประกาศเสริมประสิทธิภาพใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ Cascade โซลูชันบริหารและรับรู้การทำงานของแอพพลิเคชันบนเครือข่าย ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการมองเห็นการทำงานภายในศูนย์ข้อมูลทั้งแบบเวอร์ชวลและแบบที่ใช้ระบบควบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน (ADC) เพื่อกระจายโหลดการทำงาน ซึ่งการเปิดตัว Cascade 9.5 นับเป็นการขยายศักยภาพด้านการตรวจสอบและแก้ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพในการให้บริการต่างๆ ตั้งแต่ต้นถึงปลายทาง รวมถึงช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นครอบคลุมตั้งแต่เครือข่ายภายตลอดจนเครือข่ายระยะไกล(WAN) และยังสามารถตรวจสอบลึกลงไปถึงศูนย์ข้อมูลได้ Cascade Profiler เป็นโซลูชันบริหารและเพิ่มการรับรู้การทำงานของแอพพลิเคชันบนเครือข่ายรายแรกที่มีระบบช่วยเหลือการติดตั้งกระบวนการทำงานต่างๆ เพื่อตรวจดูการทำงานรวมถึงระบบควบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันอีกด้วย ทั้งนี้ Virtual Cascade Shark? เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่สามารถจับการทำงานของชุดข้อมูลและทำการวิเคราะห์บนสภาพแวดล้อมการใช้งานแบบเวอร์ชวล การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Cascade ใหม่มาพร้อมความสามารถในการทำงานที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความซับซ้อนหรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันอยู่ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ข้อมูลที่มีระบบกระจายโหลดการทำงานและบนสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวล
ลูกค้าระดับองค์กรหลายแห่งนำ ADC มาใช้สำหรับควบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นรวดเร็วของการทำงานในระบบ ความท้าทายที่เกิดจากการเลือกกระจายโหลดการทำงานด้วยระบบ ADC ทั้งหลายก็คือปัญหาเรื่องของการมองเห็นการทำงานบนระบบเครือข่าย การกำหนดมาตรวัดที่จำเป็นและการพึ่งพาอาศัยแอพพลิเคชันทำให้เกิดข้อจำกัดด้านความสามารถในการตรวจตราประสิทธิภาพจากต้นถึงปลายทางซึ่งเป็นการลดประสิทธิภาพด้านการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ Cascade 9.5 มีระบบอัตโนมัติที่ช่วยในการสืบค้นและเฝ้าดูการทำงานของแอพพลิเคชันที่มีการกระจายโหลดการทำงาน และในการรวมระบบควบคุมการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันอย่าง F5 Local Traffic Manager เข้ากับ Riverbed Stingray Traffic Manager หรือระบบอื่นๆ Cascade สามารถเชื่อมรอยต่อระหว่างระบบกระจายโหลดการทำงานระหว่างฝั่งของเครื่องลูกข่ายและเซิร์ฟเวอร์เข้าด้วยกัน ช่วยให้ฝ่ายไอทีมีมุมมองเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชัน
“กระแสการใช้งานเซิร์ฟเวอร์แบบเวอร์ชวลไลเซชันที่มาแน่ คือการผสานการใช้งานเชิงกลยุทธ์ร่วมกับเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและแอพพลิเคชัน ซึ่งล้วนสร้างความยุ่งยากและเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นการดำเนินงานด้านไอที” จิม เฟรย์, ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิจัยของ EMA กล่าว “ปัญหานี้ต้องอาศัยการประเมินพื้นฐานเทคโนโลยีด้านการตรวจสอบประสิทธิภาพและการบริหารจัดการเพื่อรองรับความต้องการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเรื่องของระบบที่รวมเครื่องมือที่ใช้ในการทำเวอร์ชวลไลซ์และเครื่องมือที่ให้ความสามารถในเรื่องการรับรู้ความเคลื่อนไหวในเครือข่ายไว้ด้วยกัน โซลูชัน Cascade ของริเวอร์เบด ช่วยจัดการกับปัญหาในทุกด้าน อีกทั้งยังสามารถจับคู่การทำงานเข้ากับทุกผลิตภัณฑ์เพิ่มประสิทธิภาพของ ริเวอร์เบด ให้ส่วนผสมที่จำเป็นและแตกต่างจากผู้จำหน่ายรายอื่นโดยให้ทั้งความสามารถในการมองเห็นพร้อมทั้งควบคุมโครงสร้างไอทีระบบเวอร์ชวลในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น การนำเอา ADC เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน ลูกค้าระดับองค์กรหลายแห่งต่างเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลไปสู่ระบบเวอร์ชวลและควบรวมทรัพยากรระบบไอทีเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นและประหยัดต้นทุน อย่างไรก็ตามกับ ADC กลับสร้างความท้าทายด้านการมองเห็นประสิทธิภาพการทำงานให้กับทีมงานแผนกไอที เพราะเพียงแค่แอพพลิเคชันเดียวที่เข้าสู่สภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลพวกเขาก็ไม่สามารถตรวจสอบเรื่องประสิทธิภาพการทำงานในทันที ซอฟต์แวร์ Virtual Cascade Shark ช่วยให้สามารถมองเห็นแบบเรียลไทม์ซึ่งจำเป็นต่อการจัดการและแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพของแอพพลิเคชันในขณะที่ทำงานอยู่ในระบบเวอร์ชวลอย่างสภาพแวดล้อมของ VMware ESX Virtual Cascade Shark ช่วยในการเฝ้ามองการทำงานของการใช้งานเวอร์ชวลแมชชีนทั้งหมดที่มีอยู่บนระบบ รวมถึงจัดการส่งผลการวัดประสิทธิภาพหลังจากเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแอพพลิเคชันไปยังระบบแสดงผลการจัดการของ Cascade Profiler ที่เป็นบริการค้นหาและเฝ้าดูและเร่งความเร็วในการจัดการปัญหาจากศูนย์กลาง นอกจากนั้นแล้วยังช่วยจับและจัดเก็บแพคเกจข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่นหรือบนระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ Storage Area Network (SAN) สำหรับการตรวจสอบภายหลังด้วยซอฟต์แวร์วิเคราะห์เครือข่าย Cascade Pilot
“การทำงานโดยไม่มี Cascade นั้นเป็นประสบการณ์ที่ต้องเหนื่อยมาก ในการทำให้เครือข่ายพร้อมสำหรับการใช้งานเป็นปกติแบบวันต่อวัน” มาร์ค เซย์โบลด์ จาก วิทยาลัยซันนี่ ณ โอลด์ เวสต์เบอรี่ “ถ้าเกิดเราต้องปิดการใช้งาน Cascade ปัญหาเล็กๆ ก็จะเริ่มสะสมแล้วก็เพิ่มขึ้นกลายเป็นปัญหาใหญ่ และเราเองก็ไม่มีเครื่องมือที่จะให้เรารู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในระบบเครือข่ายของเรา จากประสบการณ์ในการใช้งาน Cascade ทำให้เราแปลกใจมากที่สามารถได้ประสิทธิภาพในระดับเดียวกันในด้านของการบริหารจัดการและตรวจตราระบบบนสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวล เมื่อเปลี่ยนมาใช้งาน Virtual Cascade Shark”
“สภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลไลเซขันและระบบกระจายโหลดการทำงานถือเป็นพื้นฐานในการเปลี่ยนแปลงให้กับศูนย์ข้อมูล ในการที่เทคโนโลยีนี้สร้างประโยชน์ที่อัศจรรย์ แต่มันก็สร้างความท้าทายในเรื่องของการตรวจตราการทำงานของแอพลิเคชันบนเครือข่ายเป็นเงาตามตัว” ดิมิทรี วลาโชส ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารการตลาดและผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจ Cascade จาก ริเวอร์เบด กล่าว “เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพจากต้นถึงปลายทาง การใช้งานระบบไอทีจำเป็นต้องสามารถมองเห็นการทำงานของแอพพลิเคชันและการใช้งานบนเครือข่ายได้อย่างครอบคลุมทั้งระบบไอที ไม่ว่าจะเป็นระบบทางกายภาพและบนสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลหรือจากฝั่งของผู้ใช้งานจนถึงจุดที่ลึกกว่าเดิมในศูนย์ข้อมูล ลูกค้าระดับองค์กรต้องการโซลูชันที่เป็นหนึ่งเดียวพร้อมทั้งมีต้นทุนที่เหมาะสมและใช้งานง่ายสำหรับการเฝ้าดูและจัดการแก้ปัญหาให้กับระบบไอทีที่ยิ่งซับซ้อนขึ้นทุกวัน และพร้อมให้แอพพลิเคชันสำคัญๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
มอบประสิทธิภาพสูงสุดด้วยระบบแก้ปัญหาและรับรู้งานทำงานในจุดที่ลึกกว่าเดิมการเปิดตัว Cascade ใหม่มีการเพิ่มของความสามารถใหม่ที่สำคัญจำนวนมาก ซึ่งรวมถึง
ความสามารถในการวิเคราะห์แบบหลายจุด - Cascade Pilot? มีขั้นตอนการทำงานที่เรียบง่ายในการเชื่อมโยงและวิเคราะห์การจราจรของข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องโดยสามารถจับข้อมูลที่มาจากหลายแหล่งหรือทรัพยากร เพื่อสามารถพิสูจน์ว่าตำแหน่งใดของเครือข่ายมีปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่เครือข่ายท้องถิ่นปลายทางหรือเครือข่ายระยะไกลหรือแม้กระทั่งอยู่ในศูนย์ข้อมูล
แม่นยำด้วยการรองรับการประทับเวลา — ใน Cascade Shark? รองรับการประทับเวลาในระดับเสี้ยววินาทีจากพอร์ต SPAN เพื่อให้ได้ความถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น การประทับเวลาบนอุปกรณ์เครือข่ายแบบเดิมนั้นช่วยบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายดีขึ้นในแง่ของประสิทธิภาพด้านการแก้ไขปัญหา นอกจากนั้นแล้วความสามารถในการวิเคราะห์แบบหลายจุดของ Cascade Pilot ระบบเฝ้ามองการทำงานสำหรับระบบการซื้อขายที่ต้องเกิดความล่าช้าในระดับที่ต่ำ และแอพพลิเคชันอื่นๆ ที่ต้องการความรวดเร็วซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ โดยรองรับการทำงานร่วมกับโซลูชันการตรวจจับการใช้งานยอดนิยมต่างๆ เช่น Gigamon GigaVUE, cPacket Networks CVU and cTap, และ VSS Monitoring Distributed Traffic Capture
รายงานคุณภาพระบบสื่อสารในแบบ VoIP — Cascade 9.5 เป็นการผสานการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่าง Cascade Shark และ Cascade Profiler ช่วยรองรับการทำงานร่วมกับระบบสื่อสารแบบ VoIP และสามารถวัดคุณภาพของการใช้งานผ่านทาง Cascade Profiler ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดการระบบไอทีสามารถรับรู้ได้ว่าบริการ VoIP ที่มีอยู่สามารถทำงานร่วมกับทรัพยากรที่เป็นข้อมูลต่างๆ ได้ดีเพียงใด และยังช่วยให้สามารถวางแผนรองรับการใช้งานและการตัดสินใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน รวมถึงปรับปรุงคุณภาพในการใช้งานของผู้ใช้ในองค์กร สำหรับการวัดคุณภาพของการใช้งาน VoIP นั้นสามารถให้คะแนนออกมาได้ทั้งในรูปแบบของ mean opinion score (MOS), R-Factor, การสูญหายของแพคเกจข้อมูลและการสั่นไหวของข้อมูล นอกจากนั้น Cascade ยังรองรับการเชื่อต่อผ่านโปรโตคอล Cisco Skinny Client Control Protocol (SCCP) อีกด้วย
ความพร้อมในการวางตลาด: โซลูชัน Cascade ที่ได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใหม่นี้คาดว่าจะพร้อมวางตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555
ข้อมูลในผลิตภัณฑ์ Cascade สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.riverbed.com/cascade นอกเหนือจากนั้นสามารถดาวน์โหลดเอกสารชื่อ “Network Monitoring and Troubleshooting for DUMMIES” Riverbed Cascade Special Edition ได้ที่ http://rvbd.ly/NMaTfD
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด 02-655-6633