นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า
ในปีที่ผ่านมาปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป ส่งผลให้ภาวะการลงทุนมีความผันผวนค่อนข้างสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนส่วนหนึ่งได้ปรับลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจำพวกหุ้นลงไป และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า แต่สำหรับบริษัทฯ ได้เห็นโอกาสการลงทุนในภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงนี้ ดังนั้น เมื่อเดือน เมษายน 2554 บริษัทฯ จึงได้เสนอขายกองทุนรูปแบบใหม่นอกเหนือจากการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศในลักษณะ Feeder Fund โดยเป็นกองทุนที่ทีมผู้จัดการกองทุน สามารถคัดสรรหลักทรัพย์ และบริหารกองทุนด้วยตนเองในลักษณะการบริหารแบบ Active Fund ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ (ASP-STARS)
กองทุน ASP-STARS เป็นกองทุนผสมต่างประเทศ ที่ลงทุนโดยตรงในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ ประมาณ 20 บริษัท โดยเน้นบริษัทที่เป็นผู้นำธุรกิจและเป็นที่รู้จักทั่วโลก มีการเติบโตของธุรกิจในระดับสูง และมีราคาที่น่าลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน ทั้งนี้ กองทุนมีอายุโครงการ 2 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอในการบริหารกองทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับลูกค้าระหว่างการลงทุน ด้วยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่านระดับทุก 5% ของมูลค่าหน่วยลงทุนเริ่มแรก คือ 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท ... ซึ่งการให้ผลตอบแทนในลักษณะนี้ ถือเป็นการลดความเสี่ยงจากการรอรับผลตอบแทนเพียงครั้งเดียวเมื่อครบอายุกองทุน
โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อเดือน เมษายน 2554 จนถึง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 กองทุน ASP-STARS มีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) อยู่ที่ 10.1393 บาท สามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 1.39% ขณะที่ดัชนี MSCI All Country World ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของกองทุน และดัชนีอ้างอิงผลตอบแทนของหุ้นทั่วโลก ยังคงติดลบที่ 7.90% ซึ่งทำให้กองทุน ASP-STARS มีผลตอบแทนชนะดัชนีอ้างอิงถึง 9.29%
“ผลการดำเนินงานของกองทุน ASP-STARS ที่ผ่านมาสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการใช้กลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนได้ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นประเภท Lifestyle Stocks ที่เป็น Brand ระดับโลก หรือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยหุ้นในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมตามวิถีการดำรงชีวิตและการบริโภคในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่มีการประกอบธุรกิจไปทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐฯ และฮ่องกง ที่สามารถเติบโตได้ดีในภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน ประกอบกับโครงสร้างกองทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง ได้ช่วยสนับสนุนให้ทีมผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารกองทุนได้อย่างคล่องตัวในการปรับสัดส่วนการถือเงินสดเพื่อรอการลงทุน และการลงทุนในหุ้นตามความเหมาะสมของภาวะตลาดแต่ละช่วง ตลอดทั้งผู้จัดการกองทุนสามารถจับจังหวะการลงทุน และเทรดหลักทรัพย์เป็นรายตัวเพื่อทยอยสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนในแต่ละช่วงได้ จึงส่งผลให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา”นางลดาวรรณ กล่าว
นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2555 จะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ในปี 2555 ยังสามารถเติบโตได้ดีกว่ากลุ่มยูโรโซน ที่ยังคงมีปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะ โดยคาดว่า GDP ของสหรัฐฯ ปีนี้ จะสามารถเติบโตได้ที่ประมาณ 2% ในขณะที่เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มมีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับการขยายของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจเอเชีย ในปีนี้จะยังอยู่ในระดับสูงที่ระดับประมาณ 8% และรัฐบาลจีนมีความชัดเจนที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Hard Landing อีกทั้งจากการประชุม World Economic Forum ที่ผ่านมา ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลกมากขึ้น
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยสนับสนุนให้ในระยะเวลาที่เหลืออีก 15 เดือน ของกองทุน ASP-STARS สามารถทยอยสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะทยอยนำเสนอกลุ่มกองทุน ASP-STARS กองทุนที่สอง เมื่อจังหวะตลาดเหมาะสม โดยทีมผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาลงทุนในหุ้นต่างประเทศอื่นๆ ได้ทุกภูมิภาค โดยคำนึงถึงศักยภาพการเติบโตของตลาด และการเติบโตของหลักทรัพย์ที่เลือกลงทุน โดยมีเป้าหมายว่ากองทุน ASP-STARS จะเป็น Series กองทุนที่เปิดตลาดการลงทุนให้ผู้ลงทุนมีโอกาสลงทุนในหุ้นที่ประกอบธุรกิจไปทั่วโลกนอกเหนือจากตลาดในประเทศไทยที่มีขนาดเล็ก หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย และหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยกองทุนมีจุดเด่นที่มีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนหุ้นได้ตามสภาวะการลงทุนแต่ละขณะ และมีนโยบายในการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม