นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค จำกัด หรือ ECF หนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ของคนไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งบริษัทได้ทำการแต่งตั้งให้ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียน
โดยวัตถุประสงค์ของการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการผลิตให้ดีขึ้นจากเดิม อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากคู่ค้าของบริษัทโดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นบริษัทในต่างประเทศ
สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ของ ECF มีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 บริษัทมียอดคำสั่งซื้อสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้ารายเดิม และคาดว่าในปีหน้าจะยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ประมาณ 25%
“ในปีนี้บริษัทมีแผนจะบุกตลาดในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ยอดส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม โดยที่ผ่านมาการส่งออกของบริษัทโดยส่วนใหญ่จะเป็นการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 50% ซึ่งบริษัทมีลูกค้าบางรายในกลุ่มนี้ที่ติดต่อซื้อขายกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี และลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าเป็นอย่างมาก”นายอารักษ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทได้วางแผนขยายการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว โดยในส่วนของสายการผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้ปาติเคิลบอร์ด จะเน้นการลงทุนในเครื่องจักรระบบอัตโนมัติมากขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้นจากเดิม
ขณะที่สายการผลิตไม้เฟอร์นิเจอร์ยางพารา อยู่ระหว่างการเพิ่มกำลังการผลิต คาดว่าจะเริ่มเดินสายกำลังการผลิตใหม่ได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งนอกจากการผลิตในส่วนของไม้ยางพาราแล้วบริษัทยังพิจารณากลุ่มไม้ทางเลือก อาทิ ไม้บีช ไม้โอ๊ค เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตด้วยเช่นกัน ซึ่งแผนการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น
นายอารักษ์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 มียอดขายรวม 865 ล้านบาท และในปี 2554 มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่ประสบปัญหาจากสึนามิในประเทศญี่ปุ่นและปัญหาอุทกภัยในประเทศในช่วงที่ผ่านมา คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ประมาณ 1,100-1,200 ล้านบาท
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า คาดว่าจะทำการยื่นไฟลิ่งของ ECF ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ภายในไตรมาส 3 ปี 2555
ขณะเดียวกันเชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจของ ECF จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงเพื่อการใช้งานของกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตและคุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าตลอดจนรองรับการขยายตัวของตลาดด้วยเช่นกัน
“การที่เฟอร์นิเจอร์รูปแบบต่างๆของ ECF เป็นที่ยอมรับของตลาดในและต่างประเทศ ทั้งในแง่ของคุณภาพ ดีไซน์ และการใช้งาน จนส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงศักยภาพในการดำเนินงานและการบริหาร การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี”นายสมภพ กล่าว