นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุนธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า จากที่ บลจ.ทิสโก้ ได้ ทำการเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% ” ซึ่งมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี โดยเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีเงื่อนไขสามารถเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือ NAV มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.8000 บาทได้นั้น ขณะนี้ NAV ของกองทุนดังกล่าว ณ วันที่ 17 ก.พ. 55 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 10.8246 บาทต่อหน่วย ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด ซึ่งหากนับตั้งแต่วันที่ได้ทำการเปิดเสนอขาย ใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น พิสูจน์ความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ ได้เป็นอย่างดี
“โดยในช่วงที่เราเปิดขายกองทุน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%” เป็นช่วงที่การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนและปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ได้รับปัจจัยลบจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกา ประกอบกับความกังวลเรื่องหนี้เสียในยุโรป แต่ด้วยภาพรวมของเศรษฐกิจไทยซึ่งมีความแข็งแกร่งและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ จึงนับเป็นโอกาสของนักลงทุนในการเข้าลงทุนในหุ้นที่ราคาถูกเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่ได้คาดไว้ ทำให้เราสามารถปิด “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% ” ได้เร็วกว่ากำหนด สร้างกำไรให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ 8% โดยใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น “
ด้าน TISCO Wealth ซึ่งเป็นบริการที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนครบวงจรของกลุ่มทิสโก้ มองว่า ในภาพรวมยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ จากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จากมาตรการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด และกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงหลักยังคงมาจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยใน เดือน ม.ค. ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี โดยเฉพาะตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เช่น จีน และอินเดีย ที่มีผลตอบแทนโดยรวมสูงกว่าตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้ว ในส่วนของตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดโลกเช่นกัน
โดย TISCO Wealth มองเป้าหมายของ SET index ปี 2555 อยู่ที่ระดับ 1,150 — 1,200 จุด ด้วยเหตุผลด้านปัจจัยพื้นฐานของประเทศในเอเชียรวมถึงไทย ที่มีสัญญาณดำเนินนโยบายผ่อนคลายทั้งทางด้านการเงินและการคลัง ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ ซึ่งเชื่อว่าหากปัญหาของกลุ่มประเทศยุโรปคลี่คลายลง จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียและไทยปรับตัวขึ้นได้ตามเป้าหมายที่คาดไว้
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน