Movie: The Ides of March

อังคาร ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๒ ๑๖:๒๑
ประเภท Politic-Thriller

กำหนดฉาย 23 กุมภาพันธ์ 2012

จัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์

อำนวยการสร้าง ไบรอัน โอลิเวอร์ (Black Swan, Auto Focus)

กำกับ/ร่วมเขียนบท จอร์จ คลูนี่ย์ (กำกับ: Good Night and Good Luck, Leatherheads)

ร่วมเขียนบท แกรนท์ ฮีสโลฟ (The Men Who Stare at Goats, Good Night and Good Luck)

นำแสดง ไรอัน กอสลิ่ง (The Notebook, Blue Valentine, Half Nelson)

จอร์จ คลูนี่ย์ (แสดง: Up in the Air, Ocean's I-III, Michael Clayton)

มาริสา โทเมอิ (The Wrestler, The Lincoln Lawyer, Cyrus)

ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน (Capote, Mission: Impossible III, Charlie Wilson's War)

อีแวน เรเชล วู้ด (Across the Universe, Thirteen, The Wrestler)

เนื้อเรื่อง

ผลงานกำกับชิ้นล่าสุดของ จอร์จ คลูนี่ย์ นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ ที่ครั้งนี้ร่วมเขียนบทและแสดงนำ โดยจับคู่กับนักแสดงที่มาแรงที่สุดแห่งยุค ไรอัน กอสลิ่ง จาก The Notebook, Drive และ Blue Valentine และยังรวมนักแสดงระดับคุณภาพเอาไว้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น พอล จิอาแมตตี ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Sideways, ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์จาก Capote, มาริสา โทเมอิ ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์จาก My Consin Vinny และ อีแวน เรเชล วู้ด จาก Across the Universe และ The Wrestler

ด้วยเรื่องราวที่ตีแผ่สภาพสังคมในปัจจุบัน ที่ขับเคลื่อนด้วยเกมการเมือง The Ides of March พูดถึงความทะเยอทะยาน ความซื่อสัตย์, เซ็กซ์ และการแก้แค้น เมื่อ สตีเฟ่น ไมเยอร์ส (ไรอัน กอสลิ่ง) นักรณรงค์หาเสียงหนุ่ม ที่รับหน้าที่ช่วยให้ผู้ว่าการรัฐ ไมค์ มอริส (จอร์จ คลูนี่ย์) หาเสียงเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่แล้วเขาก็พบว่า กลุ่มคนที่ตัวเองทำงานให้นั้นอาจไม่ได้มีความจริงใจ และเจตนาดีเหมือนกับที่เขาเชื่อมั่นตั้งแต่แรก

The Ides of March กำกับ / อำนวยการสร้าง / นำแสดงโดย จอร์จ คลูนี่ย์ และร่วมเขียนบทกับ แกรนท์ ฮีสโลฟ ที่สร้างจากบทละครเวทีเรื่อง Farragut North ของ โบ วิลลิมอน โดยมีทีมงานสร้างคุณภาพอย่างผู้กำกับภาพ ฟีดอน พาพาไมเคิล (Walk the Line, Sideways), ผู้ออกแบบงานสร้าง ชารอน ซีมัวร์ (The Town, Gone Baby Gone), ผู้ตัดต่อภาพ สตีเฟ่น เมอร์ริโอเน่ (Ocean's Eleven, Babel)

จุดเริ่มต้น

จอร์จ คลูนี่ย์ ที่ทั้งกำกับ, อำนวยการสร้าง ร่วมเขียนบท และร่วมแสดงใน Ides of March พูดถึงใจความสำคัญของหนังว่า "นี่คือหนังทริลเลอร์การเมือง แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะพูดถึงการเมืองเพียงอย่างเดียว และมันก็ไม่ใช่หนังการเมืองที่อยู่ข้างใดข้างหนึ่ง นั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด การเมืองเป็นเหมือนพื้นหลังในการเดินทางของตัวละคร มันคือประสบการณ์ที่ค่อยๆทำลายอุดมการณ์ของนักหาเสียง สตีเฟ่น ไมเยอร์ส ที่รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง"

ใน The Ides of March ไมเยอร์ส พบว่าความเชื่อและอุดมการณ์ การเป็นสิ่งไร้ค่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการต่อรองทางการเมือง และการใช้อำนาจที่ควบคุมไม่ได้ โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เริ่มต้นในช่วงฤดูร้อนปี 2004 เมื่อนักเขียนหนุ่ม โบ วิลลิมอน เพิ่งเสร็จการเป็นเจ้าหน้าที่แคมเปญของ โฮเวิร์ด ดีน ตัวความหวังที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในขณะนั้น ซึ่ง วิลลิมอน ก็ได้นำเอาประสบการณ์ของตัวเอง มาสร้างเรื่องราวของเกมการเมืองและการหักหลัง ในแคมเปญลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

ละครเวทีเรื่อง Farragut North เริ่มเล่นที่ แอตแลนติก เธียเตอร์ ในนิวยอร์ค ปี 2008 ก่อนที่จะบ้ายมาที่ เกฟเฟ่น เพลย์เฮ้าส์ ในแอลเอ ปี 2009 ก่อนที่จะมาถึง Smokehouse Pictures บริษัทสร้างหนังของ จอร์จ คลูนี่ย์ และ แกรนท์ ฮีสโลฟ ที่ร่วมกันสร้างภาพยนตร์ที่ คลูนี่ย์ มีส่วนร่วมทั้งแสดงนำและกำกับ เช่น Good Night and Good Luck, Leatherheads, The Men Who Stare at Goats และ The American

การเปลี่ยนบทละครเวทีให้เป็นหนังต้องมีการดัดแปลง โดยเฉพาะผู้ว่า มอริส ที่กลายเป็นตัวละครในหนัง ในขณะที่ละครเวทีเขาไม่เคยปรากฏตัวให้เห็น คลูนี่ย์ อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงว่า "ตัวผู้ว่าไม่เคยปรากฏตัวในละครเวที เขาไม่เคยมีบทพูด แต่ในการสร้างฐานให้กับเรื่องราว พวกเราต้องสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงผู้ชายที่ สตีเฟ่น เชื่อมั่น ผู้ชายที่คนในพรรคเชื่อมั่น ก่อนที่เราจะกระแทกทุกคนด้วยบางสิ่ง เราทำให้เขาดูน่าเชื่อถือในตอนแรก จนกระทั่งคุณพบว่าเขาเป็นคนที่ห่างไกลจากคำว่าน่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิง"

ไบรอัน โอลิเวอร์ หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างก็พูดถึง Farragut North ว่า "มันเป็นวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยม ละครเวทีมีบทสนทนาที่น่าจดจำ และมีเรื่องราวที่น่าติดตาม มันเล่นกับศีลธรรมและสิ่งที่คนตัดสินใจทำหรือหลบเลี่ยง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม"

การคัดเลือกนักแสดง

การคัดเลือกนักแสดงกลายเป็นเรื่องง่าย เมื่อทีมงานเบื้องหลังอย่าง จอร์จ คลูนี่ย์ และ แกรนท์ ฮีสโลฟ โดยผู้อำนวยการสร้าง ไบรอัน โอลิเวอร์ อธิบายว่า "จอร์จ และ แกรนต์ สร้างผลงานคุณภาพมากมาย ซึ่งทำให้ทุกคนในวงการต้องการร่วมงานกับพวกเขา พวกเราจะไม่มีทางได้ทีมนักแสดงแบบนี้เลยถ้าไม่มี จอร์จ คลูนี่ย์ เป็นผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และแสดงเอง เขาและ แกรนท์ ตัดสินใจว่าต้องการนักแสดงคนไหนบ้าง และพวกเขาก็ได้มาทุกคน"

คลูนี่ย์ พูดถึงการคัดเลือกนักแสดงว่า "ปฏิกิริยาตอบสนองของนักแสดงมีความหมายสำหรับเรา มันหมายถึงการที่พวกเขาเชื่อมั่นในบทภาพยนตร์ นี่คือสิ่งที่เรพยายามาปลุกปั้นมาหลายปี ซึ่งจากคุณภาพของทีมนักแสดงในท้ายที่สุด ก็ทำให้นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ของผมและ แกรนท์ ในการทำให้หนังให้มีคุณภาพมากที่สุด"

นักแสดงที่กำลังมาแรงที่สุดอย่าง ไรอัน กอสลิ่ง เข้ามารับบทนำเป็น สตีเฟ่น เมเยอร์ส ผู้คุมแคมเปญหาเสียงของ ผู้ว่ามอริส โดยเขาเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วใน Half Nelson เผยว่าเขาสนใจไม่เพียงแต่เส้นเรื่องของตัวละคร แต่ยังรวมถึงการร่วมงานกับ คลูนี่ย์ "ทุกตัวละครอยู่ในเรื่องนี้เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัว มอริส เชื่อว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีที่เหมาะสม ซึ่งผมคิดว่ามันเหมือนกับการที่ผมเชื่อมั่นในตัว จอร์จ ที่จะทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณภาพมากที่สุด"

คลูนี่ย์ เข้าใจในความรับผิดชอบของ กอสลิ่ง ที่จะแสดงเป็นตัวละครสำคัญที่เป็นเหมือนหัวใจของหนัง "หนังเรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของตัวละคร กอสลิ่ง เขาเป็นคนเปิดเรื่องและปิดเรื่อง ในช่วงแรกเราจะเห็นว่าเขาเป็นคนฉลาด และเก่งในสิ่งที่ตัวเองทำ ทุกคนต่างต้องการตัวเขา และในช่วงสุดท้ายของหนัง เขาก็ยิ่งเก่งมากขึ้นไปอีก แต่มันก็ต้องแลกด้วยจิตวิญญาณของเขา มันคือความท้าทายของ ไรอัน ในการแสดงให้เห็นว่าเขาสมบูรณ์แบบที่สุดกับบทนี้"

กอสลิ่ง อธิบายถึงสิ่งที่ทำให้เขาสนใจในบทนี้ "มันคือหนังการเมืองที่ไม่ได้เพียงส่งสารทางการเมือง คุณไม่จำเป็นต้องเขาใจในเกมการเมือง เพื่อที่จะเข้าใจถึงตัวละครเหล่านี้ แต่มันเป็นเหมือนการเปิดหน้าต่างให้กับคุณ ได้เฝ้ามองเบื้องหลังของเกมการเมือง และสำรวจถึงสิ่งที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน"

กอสลิ่ง เชื่อว่าแรงจูงใจของ สตีเฟ่น เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ถึงแม้กระบวนการอาจจะไม่ถูกต้องตามศีลธรรมซะทีเดียว เขาอธิบายว่า "ตัวละครของผมต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจริงๆ เขาเชื่อมั่นว่าผู้ว่าที่เขาทำงานด้วยคือคนที่จะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ปัญหาก็คือถ้าตัวแทนของเขาไม่ชนะในเกมการเมืองนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปก็จะไม่มีค่า"

กอสลิ่ง สรุปถึงการเดินทางของตัวละครของเขาว่า "ในช่วงสุดท้ายของหนัง สตีเฟ่น ต้องมีการประนีประนอมกับศีลธรรมในจิตใจ ซึ่งเกิดขึ้นจากสถานการณ์และสภาพแวดล้อม ที่ทำให้อุดมการณ์ของเขาไม่มีพื้นที่อาศัย เขากลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลยในช่วงสุดท้ายของหนัง"

ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน เข้ามารับบทเป็น พอล ซาร่า หัวหน้าแคมเปญของ มอริส ที่เป็นคนดูแลแผนงานทั้งหมดต่อจาก สตีเฟ่น เขาเผยว่ารู้สึกประทับใจกับบทภาพยนตร์ ที่เป็นเหมือนการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ ไม่เพียงแต่การอยู่ภายใต้ความกดดันของกลไกการเมือง และยังรวมถึงการอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ฮอฟแมน อธิบายถึงตัวละครที่เขารับบทว่า "ผมไม่คิดว่า พอล เป็นผู้ร้าย ผมคิดว่า พอล จะกลายเป็นผู้ร้ายถ้าคุณหักหลังเขา เพราะความจงรักภักดีคือสิ่งที่ พอล ยึดมั่นที่สุด เขาเชื่อว่านั้นคือหนทางเดียวที่จะอยู่ในโลกของการเมืองได้ ถ้าคุณมีคนที่จงรักภักดีต่อคุณ และคุณก็จงรักภักดีต่อพวกเขา"

พอล จิอาแม็ตติ รับบทเป็น ทอม ดัฟฟี่ หัวหน้าแคมเปญของ พูลแมน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของมอริส เขาพูดถึงการเข้ามาแสดงว่า "ผมคิดว่าบทภาพยนตร์ถูกเขียนได้อย่างยอดเยี่ยม จังหวะในการเล่าเรื่องมีความชัดเจน คุณจะรู้ได้เลยว่ามันต้องเป็นการแสดงที่สนุก เพราะมันเป็นหนังที่ไม่ว่าคุณจะแสดงเป็นใคร คุณก็จะมีช่วงเวลาที่ได้เฉิดฉาย"

ในมุมมองของ จิอาแม็ตติ แผนการของ ดัฟฟี่ ถือเป็นเรื่องปกติในโลกของการเมือง เขาอธิบายว่า "ไม่มีใครในหนังที่มือสะอาดหมดจด ผมคิดว่าคนที่อยู่ในโลกการเมืองเป็นคนที่ฉลาด พวกเขามีเสน่ห์และพูดจาน่าเชื่อถือ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ พวกเขามีวิธีการที่พูดชักจูงทุกคนให้เชื่อถือ"

ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน เสริมว่า "การเมืองก็เหมือนการเล่นหมากรุก คุณพยายามที่จะอ่านใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะเดินตัวไหน และคุณก็จะพยายามหาวิธีโต้ตอบ หรือพยายามที่จะลวงให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในกับดัก"

มาริสา โทเมอิ รับบทเป็น ไอด้า โฮโรวิตซ์ นักข่าวของ เดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ ที่ทำข่าวเรื่องการคัดเลือกผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์คนนี้ก็รู้สึกชื่นชอบบทภาพยนตร์ "ฉันคิดว่ามันเข้มข้นและตรงประเด็น มันมีเรื่อวราวหลายชั้นและมีพัฒนาในตัวละคร รวมกับพล็อตที่พัฒนาไปข้างหน้ารวดเร็ว ไอเดียและแนวทางในบทภาพยนตร์เรื่องนี้มีความชัดเจน"

เมื่อให้อธิบายถึงตัวละครของเธอ โทเมอิ เล่าว่า "ไอด้า เป็นเพื่อนกับทุกตัวละครในที่อยู่ในเรื่อง มันมีความใกล้ชิดจากการอยู่ในเส้นทางเดียวกัน และจากการนัดทานอาคารค่ำร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกันทุกคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ดังนั้นความเป็นมิตรก็อาจกลายผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างเธอกับพวกเขา"

ระหว่างการแสดงในบท โทเมอิ ก็ค้นพบว่าในโลกของสื่อ ก็อาจเป็นอะไรที่เข้มข้นไม่แพ้กับการเมือง "ภารกิจของ ไอด้า ก็คือการนำข้อเท็จจริงมานำเสนอกับผู้คนให้เร็วกว่าคนอื่นๆ มันมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เธอคอยมองหาโอกาสในการได้ข้อมูลเพิ่ม และทำสกู๊ปให้เร็วยิ่งขึ้นกว่านักข่างวคนอื่นๆ มันเป็นเกมที่ใครดีใครได้"

นักแสดงสาว อีวาน เรเชล วู้ด ก็เข้ามารับบทเป็น มอลลี่ พนักงานฝึกหัดในแคมเปญของ มอริส ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องราวสำคัญที่เกิดขึ้นในเรื่อง เธอเล่าถึงความรู้สึกว่า "ฉันรักแนวทางที่พวกเขาเขียนถึงตัวละครนี้ เธอไม่ได้ถูกตีค่าว่าเป็นวัยรุ่นผมบลอนด์ทั่วไป ฉันคิดว่าสาเหตุที่ สตีเฟ่น สนใจในตัวเธอก็คือ การเป็นผู้ใหญ่เกินวัยของเธอ เธอไม่กลัว เธอมีความชัดเจนในตัวเอง เธอรู้ว่าต้องการอะไร และก็มุ่งหน้าไปหาสิ่งนั้น ฉันคิดว่ามันยากที่จะหาตัวละครวัยรุ่นแบบนี้"

ความท้าทายหนึ่งของ วู้ด ก็คือการหาด้านที่เปราะบางของเธอ เมื่อหนังเผยให้เห็นถึงการดิ้นรนในการเก็บความลับ "เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเธอ ก็คงต้องกลัวและเปราะบางด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นการหาความสมดุลของความแข็งแกร่งและเปราะบาง จึงเป็นทั้งเรื่องที่ลำบากและท้าทาย"

นักแสดงหลักคนสุดท้ายก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก จอร์จ คลูนี่ย์ ที่เข้ามารับบทเป็นผู้ว่า ไมค์ มอริส โดยเขาก็พูดถึงแนวทางและธรรมชาติของตัวละครที่เขาแสดงว่า "ผมรู้ว่าต้องการให้เขามีบุคลิกภาพและลักษณะแบบไหน และผมก็อยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับตัวละครตัวนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำในชีวิตจริง แต่มันก็เป็นบางสิ่งที่ผมอยากลองรับประสบการณ์ดู"

เบื้องหลังการสร้าง

การถ่ายทำ The Ides of March เริ่มต้นก่อนฤดูหนาวที่ซินซินนาติและเคนตักกี้ตอนเหนือ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านของ คลูนี่ย์ ที่เล็กซิงตั้น โดยสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำก็อยู่รอบๆซินซินนาติ ไม่ว่าจะเป็น จตุรัสน้ำพุ, สะพานโรบลิง, มหาวิทยาลัยเซเวียร์ และมหาวิทยาลัยไมอามี่แห่งโอไฮโอ ซึ่งการถ่ายทำในสถานที่ตามท้องเรื่องจริง ถือว่าช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับภาพยนตร์

แกรนท์ ฮีสโลฟ ผู้ร่วมเขียนบทและอำนวยการสร้าง ถึงการเลือกสถานที่ถ่ายทำว่า "มันทำให้ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่ คุณจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่น จอร์จ เป็นคนที่เกิดแถวนี้ เขารู้ว่าสถานที่สำคัญอยู่ไหนบ้าง เขารู้จักผู้คนในเมืองนี้ดี มันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีความเป็นกันเองมากขึ้น"

ในฐานะผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง ร่วมเขียนบท และหนึ่งในนักแสดงนำ ทำให้ คลูนี์ย์ แทบไม่มีเวลาในการผ่อนคลาย พอล จิอาแม็ตติ ที่รับบทเป็น ทอม ดัฟฟี่ ก็พูดถึง คลูนี่ย์ ว่า "เขามีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ แต่ จอร์จ ก็มีความผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ผมชอบทัศนคติและแนวทางในการทำงานของเขา มันมีความเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน เขาไม่ได้ดั้นด้นที่จะถ่ายทำ คุณจะเชื่อทุกอย่างที่เขาพูด ซ฿งจุดหมายของเขาเองก็คือความต้องการทำหนังคุณภาพ”

เมื่อการถ่ายทำผ่านไปสามอาทิตย์ ทีมงานก็ย้ายไปถ่ายทำที่ดีทรอยต์ ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำสำนักงานใหญ่ของ พูลแมน และ มอร์ริส โดยใช้อาคารในย่านดาวน์ทาวน์และสถานที่โดยรอบ รวมถึงการไปถ่ายทำในมหาวิทยาลัยมิชิแกนเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งก็รวมถึงโรงละครอาร์เธอร์ มิลเลอร์, พาว์เวอร์ เซนเตอร์ และมิชิแกน ลีค บอลรูม โดยทีมงานก็ได้รับความร่วมมือจากทางมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี

ดีทรอยต์พูดถึงการไปถ่ายทำในดีทรอยต์ว่า "ที่นี่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจอย่างหนัก พวกเขาสูญเสียสถานะของเมืองแห่งเสียงดรคตี พวกเขาสูญเสียอุตสาหกรรมรถยนต์ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังสูญเสียอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ผมหวังว่าตัวเองก็สามารถพอช่วยเหลืออะไรได้ พวกเขากำลังเจอกับช่วงเวลาที่ลำบาก"

ไรอัน กอสลิ่ง พูดถึงการทำงานของ คลูนี่ย์ ในการทำงานเป็นทั้งผู้กำกัยและนักแสดงว่า "ในฐานะนักแสดงเขามีความเป็นมืออาชีพและช่วยเหลือทุกคน ในฐานะผู้กำกับเขาก็มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม และเขาก็รู้ว่าจะสื่อสารสิ่งที่ต้องการได้ยังไง เขารู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไร" ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน เสริมว่า "ผมไม่คิดว่านักแสดงทุกคนควรกำกับหนัง แต่ผมคิดว่า จอร์จ เป็นคนที่เหมาะสมกับการกำกับหนังมากที่สุด เพราะเขามีคุณสมบัติที่พร้อมทุกอย่าง"

มาริสา โทเมอิ ก็เห็นด้วยกับเพื่อนนักแสดง "จอร์จ ทำให้บรรยากาศในกองถ่ายมีความผ่อนคลาย ฉันรู้สึกผ่อนคลายแม้ว่าตัวเองจะทำพลาด เพราะคุณจะรู้สึกว่าเขาคอยสนับสนุนคุณเสมอ เขามีการควบคุมทุกอย่าง แต่ก็ปล่อยให้เราทดลองทำอะไรที่แตกต่างในขณะเดียวกัน สมองของเขาเองก็ยังมีการคิดหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกัน"

ผู้อำนวยการสร้าง ไบรอัน โอลิเวอร์ พูดถึงความคาดหวังที่เขาคิดว่าคนดูจะได้รับว่า "ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนแปลกใจ และไม่เหมือนกับที่พวกเขาคาดคิดไว้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือความสนุกที่ได้รับจากเรื่องราวที่น่าติดตาม และได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทีมนักแสดงชั้นนำ"

คลูนี่ย์ กล่าวสรุปเอาไว้ว่า "ผมยินดีเมื่อคนดูถามตัวเองเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย ถามตัวเองว่าเราต้องการผู้นำที่สะอาดและมีภาพลักษณ์สดใสหรือไม่ นี่คือบรรทัดฐานหรือข้อกำหนดของการเลือกคนเข้าไปบริหารประเทศไหม มันคือกระบวนการที่สังคมในปัจจุบันต้องเผชิญใช่หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ผมหวังว่าผู้ชมจะลองถามตัวเองเมื่อดูหนังเรื่องนี้"

ทีมนักแสดง

ไรอัน กอสลิ่ง (รับบทเป็น สตีเฟ่น ไมเยอร์ส)

ไรอัน กอสลิ่ง ถือว่าเป็นนักแสดงที่มีฝีมือที่สุดในรุ่น โดยล่าสุดเขาเพิ่งทุ่มเทอย่างเต็มที่ในหนังแอ็คชั่น-นัวร์เรื่อง Drive ของผู้กำกับ นิโคลัสส วินดิ้ง เรฟิน และหนังคุณภาพ Blue Valentine ร่วมแสดงกับ มิเชล วิลเลี่ยมส์ ที่ส่งให้เขามีชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ

เขาได้บทนำครั้งแรกในหนังเรื่อง The Believer ที่ได้รับรางวัล แกรนด์ จูรี่ ไพรซ์ จากเทศกาลหนังซันแด๊นซ์ในปี 2001 ถือเป็นการแจ้งเกิดของ ไรอัน กอสลิ่ง ที่ทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Independent Spirit Award, สมาคมนักวิจารณ์ลอนดอน และสมาคมนักวิจารณ์รัสเซีย โดยการแสดงของเขาได้รับเสียงชื่นชมและถูกจับตามองจากทุกคนในวงการ จนหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ยังพูดถึงเขาว่า "ไรอัน กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีฝีมือที่สุดของรุ่น"

ในปี 2007 กอสลิ่ง ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและ SAG ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Lars and the Real Girl โดยก่อนหน้านี้เขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Half Nelson ในบทบาทครูติดยาที่ต้องการช่วยนักเรียนไม่ให้เป็นแบบเขา โดยเขายังได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก สมาคมนักวิจารณ์แห่งชาติ, เทศกาลหนังเมืองสต๊อกโฮมส์ และเทศกาลหนังเมืองซีแอตเทิล

ผลงานเรื่องอื่นๆของ กอสลิ่ง ก็ยังมี Murder by Number ที่เขาแสดงคู่กับ แซนดร้า บูลล็อค, Remember the Titans ร่วมกับ เดนเซล วอชิงตัน, The United State of Leland ร่วมกับ เควิน สเปซี่ย์, Fracture ร่วมกับ แอนโทนี่ ฮ็อปกิ้นส์ รวมถึงบทบาทที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของสาวๆใน The Notebook หนังโรแมนติกที่เขาแสดงคู่กับ เรเชล แม็คอดัมส์

ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน (รับบทเป็น พอล ซาร่า)

ผลงาน >>> Capote, Mission: Impossible III, Charlie Wilson's War

พอล จิอาแม็ตติ (รับบทเป็น ทอม ดัฟฟี่)

ผลงาน >>> Sideways, Cinderella Man, The Hangover Part II

มาริสา โทเมอิ (รับบทเป็น ไอด้า โฮโรวิตซ์)

ผลงาน >>> The Wrestler, The Lincoln Lawyer, Cyrus

อีวาน เรเชล วู้ด (รับบทเป็น มอลลี่)

ผลงาน >>> The Wrestler, Across the Universe, The Conspirator

ทีมผู้สร้าง

จอร์จ คลูนี่ย์ (กำกับ / ร่วมเขียนบท / รับบทเป็น ผู้ว่า ไมค์ มอร์ริส)

เขาคือนักแสดงที่เคยรับรางวัลออสการ์ และเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึงสามสาขาภายในปีเดียว นั้นก็คือผู้กำกับยอดเยี่ยมและเขียนบทดั้งเดิมยอดเยี่ยมจาก Good Night and Good Luck รวมถึงการคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Syriana โดยยังได้รับรางวัลจากสถาบันอื่นๆรวมถึงลูกโลกทองคำด้วย

ในปี 2007 Michael Clayton ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่เป็นหนึ่งในห้าหนังที่เข้าชิงออสการ์ประจำปี ทำให้ คลูนี่ย์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ และลูกโลกทองคำอีกครั้ง นอกจากนั้นในปีต่อมาเขาก็ยังแสดงเรื่อง Leatherheads หนังโรแมนติกย้อนยุคที่กำกับโดย แกรนท์ ฮีสโลฟ

ผลงานที่ผ่านมาของเขาก็ยังมี Burn After Reading หนังตลกรวมดาวของพี่น้องโคเฮน ซึ่ง คลูนี่ย์ เคยร่วมงานมาแล้วใน O Brother, Where Art Thou? ที่ทำให้เขาได้เข้าชิงลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และ Intolerable Cruelty ที่เขาแสดงคู่กับ แคทธาลีน ซีต้า โจนส์

ผลงานเรื่องอื่นๆของเขาก็ยังมี Up in the Air กำกับโดย เจสัน ไรท์แมน ที่แจ้งเกิดกับการกำกับเรื่อง Juno รวมถึง Fantastic Mr. Fox หนังสต็อปโมชั่นของผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สัน, Ocean’s 11, Ocean’s 12, Ocean’s 13 หนังรวมดาวของผู้กำกับ สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ค, Out of Sight, Perfect Storm, Solaris, The Peacemaker, Batman & Robin และ One Fine Day

ไบรอัน โอลิเวอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง)

ผลงาน >>> Black Swan, Auto Focus

แกรนท์ ฮีสโลฟ (ร่วมเขียนบท)

ผลงาน >>> Good Night and Good Luck, The Men Who Stare at Goats

ดอน พาพาไมเคิล (ผู้กำกับภาพ)

ผลงาน >>> Walk the Line, Sideways

ชารอน ซีมัวร์ (ผู้ออกแบบงานสร้าง)

ผลงาน >>> The Town, Gone Baby Gone

สตีเฟ่น เมอร์ริโอเน่ (ผู้ตัดต่อภาพ)

ผลงาน >>> Ocean's Eleven, Babel

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ องค์การอนามัยโลกจับมือประเทศไทย และ 194 ประเทศ เร่งสร้างฉันทมติดันความเสมอภาคสุขภาพช่องปากเป็นวาระโลก
๑๖:๔๔ กรมอนามัยลงพื้นที่จังหวัดสงขลา มอบรางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสุขภาพดีระดับประเทศ และรางวัลเครือข่ายเมืองสุขภาพดีระดับภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก
๑๖:๐๑ EPG มั่นใจยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งหลังของปีบัญชี 67/68 (ต.ค.67 - มี.ค.68) เติบโตดีตามเป้าหมาย เตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 6 สตางค์ 9
๑๖:๒๔ 51Talk ส่งเด็กไทยเข้าร่วม COP29 การประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บทพิสูจน์การสนับสนุนเยาวชนก้าวสู่เวทีระดับโลก
๑๖:๔๘ ORN เผยโค้งสุดท้ายปี 67 ฟอร์มดี โตต่อเนื่อง ลุยเปิด 3 โครงการใหม่บ้าน-คอนโดฯ มูลค่ารวม 3,070 ล้านบาท
๑๖:๓๓ Dog's Dream คอมมูนิตี้สนามสัตว์เลี้ยงสีเขียว ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
๑๖:๑๔ ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น ชูกลยุทธ์ Make a Leap to the New Stage ตอกย้ำพันธกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
๑๕:๔๓ กรุงศรี ขับเคลื่อนกลยุทธ์ GO ASEAN with krungsri ผสานความแข็งแกร่งและร่วมมือในเครือกรุงศรี MUFG และพันธมิตร
๑๕:๓๔ เผยสีสันแห่งการเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปี ผ่านกระเช้าของขวัญจากโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ
๑๕:๔๗ Netflix ส่งหนังไทยคว้าชัยระดับโลก! ออกแบบ-ชุติมณฑน์ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม บนเวที International Emmy Awards ครั้งที่ 52 จากผลงานเรื่อง HUNGER คนหิว