จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้บริษัท เอเชียบุ๊คส จำกัด ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และผู้ใหญ่ใจดีอีกหลายหน่วยงาน จัดโครงการประกวดเล่านิทานภาษาอังกฤษ Asia Books’ Readers’ Theatre Season 3 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้น้องๆที่มีอายุตั้งแต่ 9-16 ปี ได้แสดงความสามารถทางการแสดง และการใช้ภาษาอังกฤษ ผ่านการเล่านิทาน 8 เรื่อง ประกอบด้วย 1. เรื่อง What the Lady Bird Heard 2.เรื่องThe Great Dog Bottom Swap 3.เรื่อง Captain Flinn and the Pirate Dinosaurs 4. An Extraordinary Egg 5.เรื่อง The Talent Show 6.เรื่อง Tyrannosaurus Drip 7.เรื่อง The Shark in the Dark 8.เรื่อง Princess Smartypants โดยน้องๆสามารถเลือกนิทานที่เหมาะกับทีมของตนเอง 1 เรื่อง โดยน้องๆสามารถแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง อารมณ์ ความรู้สึก น้ำเสียงที่เข้ากับบทบาทของตัวที่แสดง และเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญต้องออกเสียงให้ถูกต้อง สามารถเชื่อมคำให้ถูกวิธี ฟังแล้วเข้าใจง่าย และใส่ความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆเข้าไปได้อย่างเต็มที่ โดยผลงานของทีมที่ชนะเลิศ จะถูกจัดทำเป็น CD เพื่อมอบให้กับห้องสมุดของโรงเรียนน้องๆที่พิการทางสายตาต่อไป
ซึ่งจากการเปิดรับสมัคร และคัดเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 25 ทีมสุดท้าย จาก 100 ทีม ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 ที่ผ่านมา ล่าสุดก็ได้ทีมที่ชนะเลิศ 5 ทีม ใน 5 Division ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดเล่านิทานภาษาอังกฤษครั้งนี้ไปครอง ซึ่ง 5 ทีม ที่ได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจประจำ Season 3 ประกอบด้วย
ทีม Blue Diamond จาก รร.จันทราศิริวิทยา ที่นำเอานิทานเรื่อง “What the Lady Bird Heard” มาเล่าให้เพื่อนๆและคณะกรรมการฟังอย่างสนุกสนาน พร้อมกับสำเนียงลีลา และท่าทางที่ชนะใจกรรมการ ทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ใน Division 1 ประเภทโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระดับอายุ 9-12 ปี หลังจากทราบผลการตัดสินแล้ว ทีม Blue Diamond ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดีใจมากๆค่ะกับรางวัลที่ได้ เพราะว่าพวกหนูเตรียมตัวกันมาตั้งแต่เทอมที่ 1 และตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างมาก ซึ่งการเข้าประกวดครั้งนี้นอกจากจะทำให้ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษแล้ว ยังทำให้เกิดความสามัคคีในกลุ่มด้วยค่ะ ”
ส่วน Division 2 ประเภทโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระดับอายุ 13-16 ปี ทีมแชมป์เก่า The Best of Yothin จาก รร.โยธินบูรณะ คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง จากการเล่านิทานเรื่อง “The Talent Show” ด้วยลีลาและน้ำเสียงที่ตื่นเต้น เร้าใจตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่อง โดยน้องบอกว่า “รางวัลที่ได้ถือว่าคุ้มค่ามากกับการเตรียมตัวและฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งอยากขอบคุณอาจารย์ รวมถึงหน่วยงานที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ ทำให้พวกเราได้มีโอกาสฝึกฝนและใช้ภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น ซึ่งพวกเราอยากจะบอกเพื่อนๆว่า การพูดภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องอยาก แต่อยู่ที่พวกเรา ถ้าฝึกฝนเป็นประจำเราก็จะเคยชินกับมัน”
สำหรับ Division 3 ประเภทโรงเรียนสอน 2 ภาษา โรงเรียนนานาชาติ และ สถาบันสอนภาษา อายุระหว่าง 9-12 ปี ทีม The Patana Woofs 2 สาวจาก รร.บางกอกพัฒนา คว้ารางวัลไปครองจากการเล่านิทานเรื่อง The Great Dog Bottom Swap ส่วน Division 4 ทีม International Jumbo Association จาก รร.นานาชาติเวลส์ล โชว์ลีลาการเล่านิทานเรื่อง The Talent Show ได้ชนะใจกรรมการจนคว้ารางวัลประเภทโรงเรียนที่สอน 2 ภาษา โรงเรียนนานาชาติ และสถาบันสอนภาษา ระดับอายุ 13-16 ปี
Division 5 : ประเภทโรงเรียนที่ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร รางวัลตกเป็นของทีม Soi Thong Show จาก รร.วัดสร้อยทอง ที่นำเรื่อง What the Lady Bird Heard มาเล่าให้กับเพื่อนๆและคณะกรรมการได้ฟัง โดยเด็กๆบอกว่า “ที่เลือกเล่านิทานเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่มีสัตว์หลายชนิด ได้มีคติสอนใจหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องการทำดี การไม่ขโมยของของคนอื่น ซึ่งการประกวดในครั้งนี้ถือเป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ดีของการฝึกฝนการพูด และการอ่านภาษาอังกฤษของพวกหนู และพวกหนูดีใจมากค่ะที่ได้รางวัลในครั้งนี้ และอยากจะเชิญชวนเพื่อนๆที่ยังกลัวและไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ โดยอยากให้ลองเริ่มฝึกฝนจากท่องคำศัพท์ หรือ หาหนังสือภาษาอังกฤษง่ายๆมาลองอ่าน และฝึกฝนไปเรื่อยๆ เราก็จะคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษไปเอง”
สำหรับรางวัลสุดท้าย เป็นรางวัล Popular Vote ซึ่งได้จากคะแนนความนิยมของผู้ที่เข้ามาดูคลิปวิดีโอของผู้เข้ารอบ 25 ทีมสุดท้าย ในเวปไซด์ของเอเซียบุ๊คส (www.asiabooks.com) โดยทีม Doodle Bug จาก รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คว้าไปครอง จากการเล่านิทานเรื่อง What the Lady Bird Heard
หลังจากได้ผู้ชนะเลิศทั้ง 6 ประเภทแล้ว ลองไปฟัง คุณซานดร้า หาญนิศาล ผู้ประกาศข่าว News Line 1 ในคณะกรรมการตัดสินพูดถึงเด็กๆที่ส่งผลงานเข้าประกวดในครั้งนี้ “จากที่ได้ดูและได้ฟังเด็กในวันนี้ รู้สึกตกใจมากว่าทำไมเด็กเก่งขนาดนี้ ซึ่งเชื่อว่าคงเกิดจากการความสนใจ และฝึกฝนอยู่เป็นประจำ จึงอยากให้เด็กไทยใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษมากๆ เพราะจะเป็นการพัฒนาในเรื่องของภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาที่มีความสำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคต ”
ขณะที่ คุณคริสโตเฟอร์ ไรท์ คณะกรรมการการตัดสิน บอกว่า “โครงการนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ฝึกซ้อมภาษาอังกฤษ และให้เด็กได้กล้าแสดงออกในด้านของภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในปีนี้เป็นปี Speaking English year 2012 จึงอยากให้เด็กไทยเน้นภาษาไทย พูดให้ชัด ให้ถูกต้อง เรียนรู้ให้เต็มที่ เพราะทุกวันนี้ปัญหาของเด็กไทย ก็คือ ภาษาไทยไม่แข็งแรง ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้น เอาภาษาไทยให้เต็ม100 ภาษาอังกฤษสัก 50 ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วเราก็จะเป็น 150 เราก็ได้เปรียบคนอื่น อยากให้เปิดใจที่จะเรียนรู้ ผม และ เอเซียบุ๊คส สัญญาว่าจะเป็นพลังที่พร้อมจะช่วย ขอเพียงแค่น้องๆเปิดใจ เปิดหู เปิดตา พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่แค่นั้นน้องๆก็จะได้สิ่งที่ดีๆ”
อย่าลืมนะคะ ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่น้องๆเปิดใจ เปิดหู เปิดตา น้องๆก็จะสามารถพูด ฟัง อ่าน และเขียน ภาษาอังกฤษได้อย่างแน่นอน โดยพี่ๆจากเอเซียบุ๊คส จะคอยเป็นกำลังใจให้ และหวังว่าเราคงจะได้พบกันในการประกวดเล่านิทานภาษาอังกฤษ ใน Asia Books’ Readers’ Theatre Season 4 นะคะ