MK เผยผลประกอบการ ประจำปี 2554

พุธ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๒ ๑๗:๑๒
ชี้ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ฉุดยอดรายได้ไตรมาสสุดท้ายลดลง 41.77% ทั้งปีลดลง 35.45% แต่มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกกว่า 1,200 ล้านบาท รอรับรู้ทั้งจำนวนในปี 2555

นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” เปิดเผยว่า ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 จำนวน 231.22 ล้านบาท ลดลง 41.77% จากไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ปี 2554 ทั้งปี บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและบริการรวม 1,673.39 ล้านบาท ลดลง 35.45% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยโครงการหลักที่สร้างรายได้ในปีนี้ ได้แก่ ชวนชื่น เพชรเกษม, ชวนชื่นโมดัส เซนโทรและชวนชื่นโมดัส จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ทั้งนี้บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ยกไปในปี 2555 กว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 50% และคอนโดมิเนียม 50% โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งจำนวน

สำหรับในไตรมาสที่ 4/2554 บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 97.46 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 42.15% สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งมีอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 38.10% รวมทั้งปี 2554 บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 669.14 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) 39.99% อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) 39.98% แม้ว่าจะได้บันทึกค่าใช้จ่ายจากสถานการณ์น้ำท่วมจำนวน 6.44 ล้านบาท ในไตรมาสสุดท้าย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในปีนี้ยังลดลงจาก 387.75 ล้านบาท เป็น 365.74 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และจากค่าใช้จ่ายซึ่งแปรผันตามการโอนกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ดียอดรายได้ที่ลดลงส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to sales) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจาก 14.96% เป็น 21.86% หลังจากหักดอกเบี้ยและภาษีแล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 234.02 ล้านบาท ลดลงจาก 536.60 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปีนี้เท่ากับ 13.63% ลดลงจากอัตรา 19.98% ในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ในส่วนของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 330.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จาก 6,442.36 ล้านบาท เป็น 6,773.18 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อนำมาพัฒนาโครงการ สอดคล้องกับหนี้สินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 371.54 ล้านบาท จาก 1,500.39 ล้านบาท เป็น 1,871.93 ล้านบาท จากการกู้เพิ่มเพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ และเพื่อรองรับการขยายตัวในภาคธุรกิจ รวมถึงการตั้งหนี้สินผลประโยชน์พนักงานจำนวน 69.45 ล้านบาท สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเดียวกันนี้ ซึ่งทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 40.73 ล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ณ สิ้นปี 2554 จึงปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจาก 0.30 เท่าเป็น 0.38 เท่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version