นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าผู้ฝากเงินทุกรายไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรจะมีวัคซีนเพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคตเมื่อเกิดวิกฤติการณ์กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยป้องกันชดเชยสิ่งที่ไม่คาดคิดกับเงินในกระเป๋าให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองเงินฝากมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2551 ซึ่งคุ้มครอง 100% และกฎหมายได้กำหนดให้ปรับการคุ้มครองเงินฝากมาอยู่ 50 ล้านบาทต่อรายในปัจจุบัน และจะลดเหลือ 1 ล้านบาทต่อรายในสิงหาคม 2555 นี้ ครอบคลุมบัญชีเงินฝากถึง 98.5% อย่างไรก็ตามวงเงินคุ้มครองสามารถทบทวนและปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม อย่างเช่นในต่างประเทศหลังเกิดวิกฤติซับไพร์มเมื่อปี 2551 ก็ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินการคุ้มครองเงินฝาก
ณ สิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ฝากเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากรวมทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านราย ผู้ฝากส่วนใหญ่ร้อยละ 98.45 เป็นผู้ฝากเงินที่มีวงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดเป็นเงินฝากทุกประเภทที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 7.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งส่วนของเงินฝากของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
นายสิงหะกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีประชาชนให้ความสนใจสอบถามเข้ามาเกี่ยวกับกรณีการลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากเหลือ 0.01% จาก 0.4% ตามแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้น ทางสถาบันฯ ยืนยันความมั่นใจได้ว่าไม่ได้เป็นปัญหา เพราะสถาบันฯ ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ในทางปฏิบัติหากเกิดปัญหาลุกลามจนกระทั่งกระทบระบบสถาบันการเงินขึ้นมาจริงๆ หน่วยงานภาครัฐก็จะต้องช่วยกันเข้าไปดูแลช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งกรณีประเทศสหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น ถือเป็นตัวอย่างที่รัฐบาลเข้าไปดูแลสถาบันการเงินในช่วงวิกฤติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงินประกอบกับในขณะนี้ระบบสถาบันการเงินไทยยังแข็งแกร่ง หลังจากมีบทเรียนจากวิกฤติปี 2540 ทำให้สถาบันการเงินและประชาชน รวมทั้งผู้กำกับดูแลมีการปรับตัว มีการระมัดระวังป้องกันความเสี่ยง และในขณะนี้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวที่ดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์ยังแข็งแกร่ง เพราะมีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงค่อนมั่นคงมีกว่า 1 เท่าจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งค่อนข้างมั่นคงสูง โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะมีปัญหาจนถูกปิดมีน้อยมาก
สำหรับผู้สนใจรายละเอียดต่างๆ ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือต้องการค้นหารายชื่อสถาบันการเงินและรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง และวงเงินคุ้มครอง สามารถติดตามได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0400