นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง 2554 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิการรับเงินปันผลในวันที่ 13 มีนาคม 2555 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 พฤษภาคม 2555
“ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับอัตราเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอีก 0.20 บาทต่อหุ้น รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตรา 0.38 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากปันผลเฉลี่ย 6.33% ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ” นายอัศนี กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2554 (มกราคม — ธันวาคม 2554) บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่บริษัทฯ มีรายได้ 3,304 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 453 ล้านบาท หลังจากบริษัทฯ ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30% อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2554 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจที่ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ดีไว้ได้
ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2555 นั้น บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากสายการผลิต NT10 ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด ที่มีกำลังการผลิต 7.2 หมื่นตัน จะพร้อมเดินเครื่องผลิตสินค้าในเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางปีนี้ เพื่อรองรับกับความต้องการสินค้าในกลุ่มดังกล่าวที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้จากสายการผลิต NT 10 ได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า แผนการทำตลาดในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนรุกขยายตลาดผ่านช่องทางขายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ภายใต้กลยุทธ์ Everything in One ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งมีความหลากหลาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาการก่อสร้างและประหยัดต้นทุน เช่น ระบบโครงหลังคาสำเร็จรูป ‘ไดมอนด์ อัลตร้า ทรัส’ ระบบผนังสำเร็จรูป ‘ไดมอนด์ วอลล์’ รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ๆ ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา ‘จตุลอน’ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนรุกขยายตลาดต่างประเทศ จากปัจจุบันที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน 10 ประเทศ โดยมองว่าประเทศพม่า มีศักยภาพและโอกาสขยายตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มเข้าไปทำตลาดในประเทศพม่ามานานกว่า 10 ปี ทำให้มีความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมความต้องการของลูกค้า จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันยอดขายจากการส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากเดิมที่มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 7-8%