ในยุค “Big Data” ซึ่งมีปริมาณทราฟฟิคของข้อมูลมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณในทุกๆ ปี ทำให้ ตลาดสื่อสารข้อมูลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง CAT ผู้ให้บริการสื่อสารข้อมูลรายแรกของไทย ที่ได้มีการพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดเผยกลยุทธ์การตลาด เพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจหลัก วางตำแหน่งความเป็นผู้นำตลาดสื่อสารโทรคมนาคมอย่างยั่งยืน
“ปีนี้เราเน้นการให้บริการสื่อสารข้อมูลที่มีความคุ้มค่ากับการลงทุนด้วยบริการวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงอย่าง CAT Ethernet และ CAT MPLS ซึ่งเหมาะกับการใช้งานขององค์กรที่มีสาขากระจายอยู่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ สามารถรับ-ส่งข้อมูลภายในองค์กรอย่างปลอดภัยด้วยราคาประหยัดสอดคล้องกับทิศทางของตลาดโดยรวม พร้อมทั้งยังเน้นการให้บริการแบบร่วมค้ากับพันธมิตรระหว่างประเทศรายใหญ่ต่างๆ ทั่วโลกแบบ One Stop Service เพื่อสร้างความคล่องตัวและความแข็งแกร่งสำหรับการแข่งขันในตลาดธุรกิจโทรคมนาคม รวมทั้งพันธมิตรประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียนให้ CAT เป็นฮับของอินโดไชน่า โดยคาดการณ์ว่าในปี 2555 CAT จะมีรายได้จากธุรกิจสื่อสารข้อมูลจะมีรายได้กว่า 7,560 ล้านบาท รวมทั้งจะมีอัตราการเติบโตถัวเฉลี่ยในช่วงปี 2555 — 2556 ประมาณ 8.1% ซึ่งคาดการณ์รายได้ดังกล่าวนั้น จะมาจากรายได้ส่วนเพิ่มที่ได้รับจากเมกะโปรเจคอย่างโครงการเคลเบิลใต้น้ำใยแก้วอ่าวไทย และการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพสร้างรายได้มากขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโครงข่าย IP” นายสมพลฯ กล่าว
นอกจากนี้ CAT ยังได้พัฒนาโครงข่ายรองรับการให้บริการสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศ ในอีกหลายๆ โครงการ ซึ่งนายสุรพล สงวนศิลป์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ปีนี้ CAT ได้ร่วมสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ APG (Asia Pacific Gateway) เป็นการร่วมกันวางแผนพัฒนาจัดสร้างของกลุ่มผู้ประกอบการสื่อสารโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก รวมทั้งในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกรวมกว่า 14 ราย โดยระบบมีความจุโดยรวมทั้งหมดถึง 54.8 Terabitsต่อวินาที ด้วยเทคโนโลยีระบบเคเบิลใต้น้ำที่ทันสมัยที่สุดซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนธุรกิจสื่อสารข้อมูลของ CAT ไปยังต่างประเทศ นอกจากนี้ CAT ยังมีแผนจัดทำโครงการสนับสนุนธุรกิจวงจรสื่อสารข้อมูล อาทิ Mobile blackhaul สำหรับ 3G Network การจัดสร้าง POP (Point of Presence) สำหรับการให้บริการ Data และอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โครงการ FTTx รวมถึงการลงทุนในระบบ Cloud รองรับการให้บริการ Private Cloud และ Public Cloud ซึ่งเป็นแนวทางการวางระบบเครือข่ายขององค์กรธุรกิจยุคใหม่”