นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 461 บริษัทหรือ 97.88 % ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 471 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG )ได้นำส่งผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 แล้ว โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม คือกลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 625,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีกำไรรวม 599,598 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 4.30% และมียอดขายรวม 9,104,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.23% ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 71,459 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 52.91% และมียอดขายรวม 2,115,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.09% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ที่ส่งงบการเงินงวดปี 2554 มีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 386 บริษัท หรือ 83.73%“ในปี 2554 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้นเพียง 4.30% นอกจากนั้นหากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2554 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2553 พบว่า กำไรสุทธิลดลงถึง 52.91% ทั้งนี้ปัจจัยหลักได้แก่ แรงกดดันต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบจากการบันทึกมูลค่าความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตัวเลขยอดขายในปี 2554 จะพบว่าเพิ่มขึ้น 22.23% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าหรือเมื่อเทียบเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2554 กับไตรมาสเดียวกันปี 2553 ยอดขายยังคงเติบโตได้ถึง 13.09% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงศักยภาพของ บจ. และทำให้เห็นว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4 เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้น หาก บจ. มีการบริหารจัดการที่ดี สามารถจัดการต้นทุนขายได้มีประสิทธิภาพ กำไรสุทธิของ บจ. ก็จะกลับมาเติบโตได้” นายจรัมพรกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุด ปี 2554 ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรรวมสูงสุด 3 อันดับแรก จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยทั้ง 3 หมวดอุตสาหกรรมมีกำไรสุทธิรวม 395,809 ล้านบาท คิดเป็น 63.29 % .ของกำไรรวมทั้งหมด