ปี 2554 บจ. มีกำไรรวม กว่า 6.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.30% จากปี 2553

อังคาร ๐๖ มีนาคม ๒๐๑๒ ๐๘:๕๘
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำกำไรสุทธิงวดปี 2554 รวม 625,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.30 % จากปีก่อนซึ่งมีกำไรรวม 599,598 ล้านบาท โดยมียอดขายรวม 9,104,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.23 % กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกที่มีกำไรสูงสุด คือ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมี PTT, PTTEP, SCB , PTTGC และ BBL เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 461 บริษัทหรือ 97.88 % ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 471 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG )ได้นำส่งผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 แล้ว โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม คือกลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 625,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีกำไรรวม 599,598 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 4.30% และมียอดขายรวม 9,104,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.23% ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวม 71,459 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 52.91% และมียอดขายรวม 2,115,318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.09% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ที่ส่งงบการเงินงวดปี 2554 มีบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 386 บริษัท หรือ 83.73%“ในปี 2554 บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้นเพียง 4.30% นอกจากนั้นหากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2554 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2553 พบว่า กำไรสุทธิลดลงถึง 52.91% ทั้งนี้ปัจจัยหลักได้แก่ แรงกดดันต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นและผลกระทบจากการบันทึกมูลค่าความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตัวเลขยอดขายในปี 2554 จะพบว่าเพิ่มขึ้น 22.23% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าหรือเมื่อเทียบเฉพาะไตรมาส 4 ปี 2554 กับไตรมาสเดียวกันปี 2553 ยอดขายยังคงเติบโตได้ถึง 13.09% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงศักยภาพของ บจ. และทำให้เห็นว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4 เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้น หาก บจ. มีการบริหารจัดการที่ดี สามารถจัดการต้นทุนขายได้มีประสิทธิภาพ กำไรสุทธิของ บจ. ก็จะกลับมาเติบโตได้” นายจรัมพรกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)

ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุด ปี 2554 ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไรรวมสูงสุด 3 อันดับแรก จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยทั้ง 3 หมวดอุตสาหกรรมมีกำไรสุทธิรวม 395,809 ล้านบาท คิดเป็น 63.29 % .ของกำไรรวมทั้งหมด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๑ ธนาคารไทยพาณิชย์คว้าแชมป์ธนาคารแห่งปีต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน
๑๓:๐๔ จุฬาฯ ผนึก สมช. และกองทัพเรือ ลงนามความร่วมมือ จัดตั้ง องค์กรจัดการความรู้ทางทะเลของประเทศไทย
๑๓:๓๖ พาราไดซ์ พาร์ค ยกร้านอาหารดังจากเมืองนางาซากิ Ringer Hut (ริงเกอร์ฮัท) และ Hamakatsu (ฮามาคัตสึ) เปิดสาขาใหม่ ชั้น
๑๓:๕๒ สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์สงกรานต์ ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ เน้นย้ำ ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย รถตู้โดยสารสาธารณะปลอดภัย
๑๑:๑๐ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ คว้ารางวัลใหญ่ GRANDE จากเวที ADFEST 2025 จาก แคมเปญสมัครบัตร What the Fast!
๑๑:๒๘ ทรู เปิดพื้นที่อัจฉริยะแห่งอนาคต True Branding Shop โฉมใหม่ ขนทัพเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ ยกระดับทุกมิติไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ณ ชั้น 3
๑๑:๐๔ ทัช พร็อพเพอร์ตี้ แนะ 7 แนวทาง อาคารรับมือช่วงมรสุมหลังแผ่นดินไหว จุดไหนต้องเฝ้าระวังเพิ่ม
๑๑:๓๔ OPPO ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ร่วมบริจาคอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้แก่มูลนิธิสันติสุข
๑๑:๓๖ NITMX เผยสถิติการใช้งาน PromptPay มีนาคม 2568 ยอดธุรกรรมแตะ 2.1 พันล้านรายการ หนุนไทยสู่สังคมไร้เงินสด
๑๐:๒๘ NT แนะนำบริการ AWS Migration Assessment and Deployment เพื่อช่วยหน่วยงานภาครัฐ ย้ายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขึ้นคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด