นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าระบบคุ้มครองเงินฝากเป็นระบบพื้นฐานของโครงสร้างทางการเงินทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ฝากเงิน ซึ่งการดำเนินนโยบายต่างๆ ในปัจจุบันของสถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยนั้น ได้มีการประสานความร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญของสถาบันคุ้มครองเงินฝากประจำปีนี้ ในระหว่างเดือนมีนาคมที่นับเป็นอีกก้าวที่น่าสนใจก็คือ สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมไตรภาคี ( Tripatite Meeting ) ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างคณะกรรมการสถาบันประกันเงินฝากประเทศอินโดนีเซีย ( IDIC) สถาบันประกันเงินฝากประเทศมาเลเซีย (MDIC) และสถาบันคุ้มครองเงินฝากประเทศไทย (DPA) ที่ได้มีการลงนามตกลงความร่วมมือร่วมกันที่ผ่านมา โดยหัวข้อในการประชุมครั้งนี้เกี่ยวกับ ผลจากการเปลี่ยนการคุ้มครองเต็มจำนวน มาเป็นการคุ้มครองโดยจำกัดวงเงินของประเทศต่างๆ ( Aftermath : Transition Back to Limited Coverage )
สำหรับวัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และความคิดเห็นระหว่างกันในประเด็นต่างๆ โดยจะมีการระดม แนวคิดวิธีการเตรียมความพร้อมรับมือวิกฤติการเงินในมุมมองของสถาบันประกันเงินฝากในประเทศต่างๆ รวมทั้งแลกเปลี่ยนแนวทางประสบการณ์ของแต่ละประเทศที่ได้ปฏิบัติ เมื่อจะมีการปรับลดวงเงินคุ้มครอง ว่าจำนวนวงเงินและระยะเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างไร มีวิธีการจัดการและประสานงานความร่วมมือกันอย่างไร เนื่องจากการเตรียมการเรื่องดังกล่าวนั้นถือว่ามีความสำคัญและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงินและผู้ใช้บริการของสถาบันการเงิน รวมทั้งยังช่วยลดความตื่นตระหนกหากผู้ฝากเงินมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยจะเน้นความสำคัญกับการสื่อสารประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลข่าวสารอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมไม่ตื่นตระหนก โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้ประสานงานความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ในการประชาสัมพันธ์ บรรยาย ให้ความรู้ไปพร้อมกันทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ในการประชุมยังจะมีการหารือแลกเปลี่ยนประเด็นที่เป็นที่น่าสนใจของแต่ละประเทศมาเล่าสู่กันฟัง ตัวอย่างเช่นประเด็นความคืบหน้าในสถาบันประกันเงินฝากประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการกำหนดอำนาจหน้าที่สถาบันประกันเงินฝาก ให้มีหน้าที่การกำกับดูแลสถาบันการเงินไปด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ที่แยกออกมาจากธนาคารแห่งประเทศอินโดนีเซีย เพื่อประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารดูแลและตรวจสอบตั้งแต่ขั้นตอนการออกใบอนุญาตให้กับธนาคารพาณิชย์
การประชุมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ แล้ว ยังจะช่วยผลักดันให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทยเป็นที่รู้จักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศยิ่งขึ้น ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ในการเสริมสร้างและประสานความร่วมมือระหว่างกันต่อไป
สถาบันประกันเงินฝากไทยได้เป็นสมาชิกขององค์กรความร่วมมือระหว่างสถาบันประกันเงินฝากทั่วโลกหรือ International Association of Deposit Insurers ( IADI ) และยังได้มีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มสมาชิกประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือ Asia Pacific Regional Committee ( APRC ) อีกด้วย ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ รวมทั้งเข้าฝึกอบรมกับประเทศสมาชิกเสมอ
สำหรับผู้สนใจความเคลื่อนไหวต่างๆ หรือศึกษารายละเอียดข้อมูลของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก สามารถติดตามหรือเสนอความคิดเห็นได้ทาง www.dpa.or.th หรือ 02-272-0400
สำนักผู้บริหารและสื่อสารองค์กร โทร. 02-272-0400 ต่อ 127 / www.dpa.or.th