ภาพข่าว: นักวิชาการชี้ปรับกรอบคิดเรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อม นำไทยก้าวสู่ Low Carbon Society

พุธ ๑๔ มีนาคม ๒๐๑๒ ๑๑:๔๗
ปิดฉากไปแล้วสำหรับการประชุมวิชาการนานาชาติ The 4th International Conference on Sustainable Energy and Environment (SEE 2011) : A Paradigm shift to Low carbon Society จัดโดย บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม(JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอนด์ บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักวิชาการภาคการศึกษา องค์กรด้านการวิจัย หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจกว่า 200 คน ที่เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิจัยในหัวข้อต่างๆ รวม 130 บทความ จาก 18 ประเทศทั่วโลก โดยกว่า 40% เป็นผลงานวิจัยจากต่างประเทศ

ดร.คุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวตอนหนึ่งในปาฐกถาพิเศษ เรื่อง Overview of energy situation and policy in Thailand ว่า สภาพอากาศทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ทำให้หลายประเทศหันมาให้ความสนใจตื่นตัวและวิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหา ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

“Low Carbon Society คือประเด็นหนึ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ หลังจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเองก็ได้มีการพัฒนาเรื่องของการประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินการเรื่องเมืองพลังงานสะอาด เพื่อลดการใช้พลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น ทั้งนี้ ทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้เสนอให้เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เข้าสู่ Low Carbon Society เพื่อนำร่องและผลักดันให้นโยบายการพัฒนา Low Carbon Society ให้เกิดขึ้นได้จริง การประชุมครั้งนี้จึงถือว่าเป็นเวทีที่ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติและความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป”

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.สิรินทรเทพ เต้าประยูร ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการประชุมฯ กล่าวว่า หากพิจารณาถึงต้นเหตุของปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นพบว่าสาเหตุใหญ่มาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ออกสู่ชั้นบรรยากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นสิ่งจำเป็นและการใช้เทคโนโลยีลดก๊าซเรือนกระจกยังไม่สามารถลดได้ตามที่โลกคาดหวัง

เป้าหมายหลักของการจัดประชุมครั้งนี้คือ การเปลี่ยนกรอบความคิด (paradigm shift) เพื่อให้มีมุมมองใหม่ ๆ ในการเข้าสู่ low carbon society การประชุมสะท้อนกรอบความคิดของการ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานพลังงานเพื่อรองรับการปรับปรุงและส่งเสริม เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งในการใช้พลังงานทดแทนและการประหยัดพลังงาน รวมถึงแนวทางการผลักดันนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมไปสู่การปฏิบัติจริงภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมอย่างต่อเนื่อง

“ผลที่ได้ในการประชุมครั้งนี้คิดว่าโลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ Low Carbon Society เท่าที่ฟังจากวิทยากรหลักทั้งจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ทุกคนต่างมีความคิดเห็นตรงกันว่า การเปลี่ยนกรอบความคิดเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สังคมก้าวไปสู่ Low Carbon Society โดยเฉพาะการรับผิดชอบแก้ไขสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะนี้ให้ดีขึ้น”

ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า การสนับสนุนแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการในเรื่องดังกล่าวระหว่างมหาวิทยาลัยเกียวโตกับมจธ. และหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการวิจัยกับปัญหาพลังงานสะอาด ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมีการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีเชื้อเพลิงและพลังงานทดแทนใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย เพราะบัณฑิตเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนไปสู่ Low Carbon Society

“ความเข้มแข็งในการสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการของหน่วยงานต่างๆ คือส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนนโยบายไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งส่วนหนึ่งคือการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องพลังงาน ขณะเดียวกันต้องมีการปรับปรุงแก้ไขนโยบายคือ 1.ลดการใช้ 2.ต้องมีการปรับปรุงและแก้ไขไปพร้อมๆกัน และที่สำคัญคือต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน หรือที่เรียกว่า CO Carbon Society ที่มีการดึงและปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปเท่าๆ กันในกระบวนการทำงาน”

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเชื่อว่าการพัฒนาประเทศสู่ Low Carbon Society โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง จะช่วยป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญจะช่วยให้ประชาคมโลกจะก้าวไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๗ ทันตแพทย์ ม.พะเยา ลงพื้นที่ดูแลสุขภาพช่องปาก เด็กปากแหว่งเพดานโหว่ เติมรอยยิ้มสดใส ฟันดีทุกวัย
๑๗:๐๐ 'สานใจไทย สู่ใจใต้' รุ่นที่ 44 ซีพี - ซีพีเอฟ หนุนโครงการต่อเนื่องมุ่งเสริมสร้างโอกาสการศึกษา พัฒนาความคิดและทักษะอาชีพแก่เยาวชนไทยรุ่นใหม่
๑๗:๑๒ สงกรานต์นี้ ฉลองไปกับโรยัล เอ็นฟีลด์
๑๗:๐๗ ' ถอดบทเรียน' พลิกวิกฤต สู่โอกาส เรียนรู้แผ่นดินไหว สู่การจัดการอย่างยั่งยืน กรมอนามัย-สบส.มหิดล-อุบลราชธานี
๑๗:๔๑ ดีพร้อม เปิดโปรเจ็กต์สุดปังหนุนผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่นสายมูมงคล ดึงวัฒนธรรม ศรัทธา เสริมพลังบวก
๑๗:๔๑ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ประกาศผลผู้ชนะโครงการประกวดภาพศิลปะเด็กและเยาวชนแนวคิด ดื่มไม่ขับ หนุนทักษะศิลปะเยาวชน
๑๗:๐๗ โครงการอบรมและพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ ประจำปี 2568 ให้คำปรึกษาทางการแพทย์แผนกทุยหนาและกระดูก
๑๗:๔๒ CPF เปิดบ้าน จัดงาน 'CP SPLASH IN SPACE' ปลุกพลัง Soft Power ชวนคนไทยฉลองสงกรานต์ เสิร์ฟความมันส์ ทะลุอวกาศบนถนนสีลม
๑๗:๐๐ BSRC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มีมติอนุมัติเดินหน้าการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท
๑๗:๑๖ Splashing Together ทรู ดีแทค รวมกัน สงกรานต์สนุกขึ้นเยอะเลย