นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มีการศึกษาและกำหนดมาตรฐานและตัวชี้วัดความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์ ความมั่นคงของมนุษย์ของประเทศไทยในภาพรวม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน โครงการ กิจกรรม และดำเนินการพัฒนาคนและสังคม และเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงให้มีการ บูรณาการการดำเนินงานด้านสังคมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๔ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ดำเนินการพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดฯ โดยการทบทวน ประมวลองค์ความรู้กรอบแนวคิด ด้านความมั่นคงของมนุษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการศึกษาข้อมูลเชิงคุณภาพ เพื่อกำหนดนิยาม กรอบแนวคิดมาตรฐานและตัวชี้วัดฯ ที่มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคมในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต ซึ่งผลจากการพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดฯ ได้องค์ประกอบ ๑๒ มิติ (๔๑ ตัวชี้วัด) ได้แก่ ๑.มิติที่อยู่อาศัย ๒.มิติสุขภาพ ๓.มิติอาหาร ๔.มิติการศึกษา ๕.มิติการมีงานทำและมีรายได้ ๖.มิติครอบครัว ๗.มิติชุมชนและการสนับสนุนทางสังคม ๘.มิติศาสนาและวัฒนธรรม ๙.มิติความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ๑๐.มิติสิทธิและความ เป็นธรรม ๑๑.มิติการเมือง และ ๑๒.มิติสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และพลังงาน สำหรับประเมินความมั่นคงของมนุษย์ของประชาชนเป็นรายบุคคล ซึ่งสามารถสะท้อนความมั่นคงของประชาชนได้โดยตรง และจากสภาพปัญหาสังคม และการพัฒนาสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ และมีความหลากหลายในหลายมิติ ดังนั้น การพัฒนาจำเป็นต้องส่งเสริมเครือข่ายทางสังคมให้ร่วมมือในการพัฒนาสังคม พร้อมการระดมทุนทางสังคมต่างๆ มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชนให้มีคุณภาพ
นางพนิตา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ดำเนินงานด้านการพัฒนาสังคม และช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถให้บริการได้กว้างขวาง ครอบคลุม และครบถ้วนทั้งหมด การสื่อสาร เผยแพร่ ให้ความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ ต่อหน่วยงานภาครัฐนั้น เป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมก่อให้เกิดพลังเสริมสร้างความมั่นคงในสังคม ท้องถิ่น ชุมชน และประชาชน.