พาณิชย์ เปิดเส้นทางโลจิสติกส์ ขยายการค้า-การลงทุนกับกลุ่ม BIMSTEC

จันทร์ ๒๖ มีนาคม ๒๐๑๒ ๑๐:๓๔
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิ สาระผล และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์) ในการจัดกิจกรรมขยายโอกาสการค้าการลงทุนของไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ (นางพิรมล เจริญเผ่า) จัดทำและกำกับดูแลการดำเนินโครงการขยายโอกาสการค้าและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเลือกศึกษาเส้นทางประเทศแถบอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 1,500 ล้านคน เหมาะแก่การขยายฐานการผลิต และแสวงหาวัตถุดิบในการผลิต รวมทั้งต่อยอดการส่งออกสินค้าที่ผลิตในประเทศนั้นๆ เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างประเทศ

นายยรรยง กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ เป็นการรายงานผลจากการดำเนินโครงการฯ โดยที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการให้ความรู้ด้านกฎ ระเบียบ ลู่ทางการค้า การลงทุน มีกิจกรรมเข้าเยี่ยมชมโรงงานและสำรวจแหล่งธุรกิจ เพื่อหาลู่ทางในการขยายการค้าการลงทุนไทยผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ไปยังประเทศเป้าหมายแถบอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) ได้แก่ สหภาพเมียนมาร์ บังคลาเทศ (ธากา) และอินเดีย (กัลกัตตา) โดยมีบริษัทขนาดใหญ่จากไทยและประเทศคู่ค้า ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจกว่า 180 แห่ง ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม

นายยรรยง กล่าวต่อว่า จากการศึกษาดังกล่าวทำให้ทราบว่า สินค้า/บริการที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง ในสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ก่อสร้าง กำจัดขยะ บรรจุภัณฑ์ (ขวดแก้ว ขวดพลาสติก) โรงงานอาหารสำเร็จรูป โรงแรม โรงพยาบาล ธุรกิจบริการด้านทีวี บันเทิง การจัดงานประชุม/สัมมนา สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องนุ่งห่ม บังคลาเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป (วัตถุดิบจำนวนมาก แต่ขาดเทคโนโลยีและการผลิตและการถนอมอาหาร) สาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า กำจัดขยะ กำจัดน้ำเสีย บรรจุภัณฑ์จากแก้ว/พลาสติก และอินเดีย ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า กำจัดขยะ กำจัดน้ำเสียบรรจุภัณฑ์ (ขวดพลาสติก) อัญมณีและเครื่องประดับ

“การจัดกิจกรรมดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ (ได้ผลทางธุรกิจกว่า 70%) ภาคเอกชนไทยได้รับความรู้ด้านกฎระเบียบการค้าการลงทุน รับทราบปัญหา/อุปสรรค และแนวทางการแก้ไขอย่างแท้จริง จากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจดำเนินธุรกิจ ทำให้เห็นภาพของตลาดจริง/พฤติกรรมผู้บริโภค/ลู่ทางที่จะขยายตลาดอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เน้นการร่วมลงทุน ทั้ง Inside-out และ Outside-in นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีสำหรับภาคเอกชนในการซักถามประเด็นข้อสงสัยในคราวประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าไปลงทุน ตลอดจนเกิดสายสัมพันธ์ระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจและเอกชนไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐในการแก้ไขปัญหา หรือการเจรจาระดับรัฐต่อรัฐ หากจะมีการร่วมทุนอย่างจริงจัง โดยหลังจากดำเนินโครงการนี้เสร็จสิ้นแล้ว กระทรวงฯ จะได้ติดตามผลอย่างใกล้ชิด ในการลดอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นจากการประสานธุรกิจ โดยจะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน และให้บริการแบบบ่มเพาะเฉพาะกลุ่ม อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว” นายยรรยง กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ