นางสาวพรรณวดี โพธิหน่อทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการอยู่อาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์เพลิงไหม้ เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกัน หากพิจารณาในส่วนของอาคารสูงเพื่อธุรกิจ การเกิดเพลิงไหม้ส่วนใหญ่ มักจะมีสาเหตุมาจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร เพราะขาดการดูแลให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอหรือการไม่ กำหนดจุดสูบบุหรี่ในอาคารให้ชัดเจน ทำให้เกิดการทิ้งก้นบุหรี่ในหลายส่วนของอาคารอันเป็นสาเหตุให้เกิด เพลิงไหม้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ การไม่เคารพต่อกฎหมายโดยทำการต่อเติมโครงสร้างอาคารก็เป็นสาเหตุ ที่พบมากเช่นกัน ในขณะที่สาเหตุของอาคารสูงประเภทคอนโดมิเนียมเกิดเพลิงไหม้อาจจะแตกต่างกัน เล็กน้อยคือพื้นที่ที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้มักเกิดขึ้นที่บริเวณห้องครัว เพราะเกิดจากการเปิดเตาไฟฟ้า หรือเตาแก๊สทิ้งไว้จนติดไฟ หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานเป็นระยะเวลานาน
“การหมั่นตรวจสอบระบบไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่าสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่นั้น จึงมีความสำคัญอย่างมากในการป้องกันการเกิดอัคคีภัย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เองเล็งเห็นความสำคัญ ในประเด็นดังกล่าว จึงได้มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในห้องลูกบ้าน รวมทั้งช่วยตรวจเช็คความปลอดภัย ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในโครงการคอนโดมิเนียมที่อายุมากกว่า 5 ปีอย่างใกล้ชิด เพิ่มเติมจากการตรวจเช็ค ระบบเตือนภัยเมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่ทำเป็นประจำในทุก 6 เดือนอยู่แล้ว นอกจากการป้องกันต้นเหตุ ของการเกิดเพลิงไหม้แล้ว เรายังเข้มงวดในการตรวจสอบวัตถุไวไฟด้วย โดยหากห้องใดมีการต่อเติม หรือตกแต่งในห้องวัสดุไวไฟต่างๆ เช่น ทินเนอร์หรือสีจะต้องนำเข้ามาเองทุกเช้าและขนย้ายออกจาก อาคารทุกเย็น ห้ามวางทิ้งค้างคืนโดยเด็ดขาด เพราะหากเกิดอุบ้ติเหตุไฟไหม้ขึ้นจะได้ไม่มีวัตถุไวไฟ ภายในอาคาร” นางสาวพรรณวดี โพธิหน่อทอง กล่าว
ปัจจุบัน ระบบบริหารจัดการการป้องกันการเกิดอัคคีภัยถูกหยิบยกขึ้นมาทวงถามถึงมาตรฐาน อย่างมากว่ามีประสิทธิภาพที่สมบูรณ์มากน้อยเพียงไร นางสาวพรรณวดี กล่าวเสริมในประเด็น ดังกล่าวว่า “หน้าที่ดังกล่าวถือเป็นหน้าที่หลักของ บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารโครงการ หากพิจารณาในส่วนของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวได้ว่าเรามีทีมเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านการรับมือ เหตุเพลิงไหม้ประจำในทุกอาคารคอนโดมิเนียมที่ดูแล โดยเราได้ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลโครงการระดับสูง เข้าอบรมการรับมือเหตุเพลิงไหม้จากต่างประเทศ เพื่อนำวิทยาการและความรู้มาถ่ายทอดแก่ทีมปฏิบัติงาน จริง ในขณะที่ทีมปฏิบัติการในแต่ละคอนโดก็ได้รับการอบรมจากสถาบันฝึกดับเพลิงและกู้ภัยอันดับหนึ่งของเมืองไทยที่ผ่านการรับรองแล้วว่ามีมาตรฐานการดับเพลิงระดับเดียวกับสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยใน โครงการที่เราดูแลจึงสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้น จะมีทีมที่เป็นมืออาชีพพร้อมดูแลปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของลูกบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ”
“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน หันมาให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ ให้มากขึ้น พร้อมกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องมองข้ามกฎหมาย รวมทั้งต้องเข้มงวดและตรวจสอบเรื่องระบบป้องกันและตรวจจับเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูง เพราะสิ่งนี้เป็น สิ่งที่รับประกันความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุด แต่หากอาคารสูงประเภท คอนโดมิเนียมมีจำนวนมากเกินไปจนหน่วยงานรัฐตรวจสอบได้ไม่หมด ก็ควรจะดำเนินการว่าจ้างองค์กร เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมอาคารและมีความน่าเชื่อถือเป็นผู้ตรวจสอบแทน” นางสาวพรรณวดี กล่าว
โดยผู้บริหาร พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังให้ข้อคิดเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “อาคารที่สูงเกิน 15 ชั้นควรมี ลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนอาคาร เพื่อช่วยในการดับไฟและขนย้ายเพราะปัจจุบันรถกระเช้าดับเพลิง มีความสูงที่สามารถดับไฟได้เพียง 12 ชั้นเท่านั้น และควรเตรียมเครื่องมือที่ทันสมัยและถังดับเพลิง ขนาดใหญ่ในทุกชั้น รวมทั้งฝึกซ้อมการรับมืออัคคีภัยแก่พนักงานในแบบ roleplayทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้เกิดประสบการณ์ในการปฏิบัติจริง เพื่อให้สามารถดับไฟและขนย้ายผู้อยู่ในอาคารได้รวดเร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ช่วยลดความเสียหายทั้งในชีวิตและทรัพย์สินได้ดีที่สุด คือ เจ้าของร่วมหรือลูกบ้านที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมต้องให้ความสำคัญในการป้องกันอัคคีภัยและการซ้อมหนีไฟมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะห้องที่มีเด็กควรใส่ใจในการซ้อมหนีไฟทุกครั้ง จะได้รับมือกับปัญหาได้ถูกต้องเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” นางสาวพรรณวดี กล่าวสรุป