นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ จำกัด เปิดเผยว่า ?วี เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ หรือ วีเทค? ร่วมกับ บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของประเทศ ภายใต้แบรนด์ ?ATEC COMPUTER? จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมประมูลโครงการคอมพิวเตอร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย), บริษัท เล็คมาร์ค จำกัด, บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด และบริษัท โพเวลอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ จำกัด เพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการคอมพิวเตอร์ ของกระทรวง ศึกษาธิการ ในโครงการไทยเข้มแข็งระยะ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้งบประมาณราว 900 ล้านบาท
โดยใน 2 ปีที่ผ่านมา วีเทค ได้เข้าร่วมประมูลในโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปีแรกของโครงการไทยเข้มแข็งที่มีงบประมาณในการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ทั่วประเทศรวมอยู่ที่ 7,949 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นปีแรกที่ 4,000 ล้านบาท โดย วีเทคสามารถดึงส่วนแบ่งทางการตลาดได้ประมาณ 12.5% หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 400 ล้านบาท และในปีที่ผ่านมาวีเทคแชร์ตลาดได้ที่ 400 ล้านบาท ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางส่วน และปีนี้พันธมิตรเดิมยังคงเหนียวแน่น รวมถึง ดีลเลอร์พันธมิตรที่ยังคงเข้มแข็ง ในการบริการหลังการขาย จึงพร้อมลุยศึกประมูลคอมพิวเตอร์ของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการ ที่ V-Tech คาดว่าจะสามารถแชร์ส่วนแบ่งได้อีกราว 20 %
?กลุ่มลูกค้าของ V-Tech แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ภาครัฐและภาคเอกชน โดยในปีที่ผ่านมา มียอดรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท โครงการที่สำคัญคืองานระบบ 3G ของ True โดยในปีนี้เรามีพันธมิตรอินเตอร์แบรนด์อย่าง BENQ ให้ V-Tech เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ชั้นนำของโลก แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเชื่อว่าโปรเจคนี้จะทำให้ยอดรายได้ของ V-Tech เติบโตขึ้นอีกราว 90 ล้านบาท? นาย ณัฐพงศ์ กล่าวในที่สุด
สำหรับโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ได้จัดสรรงบประมาณในการจัดหาคอมพิวเตอร์เกือบ 400,000 เครื่องในระยะสัญญา 3 ปีภายใต้งบประมาณราว 7,949 ล้านบาท โดยระยะแรกของโครงการจัดประมูลไปแล้วราว 4,000 ล้านบาท และอีกประมาณ 3,979 ล้านบาท สำหรับโครงการไทยเข้มแข็งมีเป้าหมายเพื่อขยายอัตราส่วนการใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อนักเรียนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 เครื่องต่อนักเรียน 10 คน จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 1 เครื่องต่อนักเรียน 40 คน โดยจะมีการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 4.82 แสนเครื่อง จัดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ 17,328 โรง ที่มีอัตราส่วนยังไม่ได้ 1 ต่อ 10 ในปัจจุบัน
ส่วนความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นกับ BenQ นั้น จะเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของ BenQ จากธุรกิจ It สู่เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ BenQ บริษัทแม่ในไต้หวันได้เข้า Takeover ธุรกิจโรงพยาบาลและบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยได้ผลิตและส่งออกแล้วในตลาดยุโรป ซึ่งอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ของ BenQ จะโดดเด่นด้วยนวัตกรรม คุณภาพที่สูง จึงมองว่าตลาดเมืองไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่ง BenQ ไว้วางใจให้ V-tec ทำตลาดในเมืองไทยแต่เพียงผู้เดียว
โดยสินค้าจะมี 2 กลุ่มคือ เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ เช่นเตียงผ่าตัด ,ผ้าก๊อสพันแผลที่มีส่วนผสมของโปรตีนไคโตซานที่ช่วยให้เลือดหยุดไหลอย่างรวดเร็ว และเทปซิลปิดกันน้ำหลังผ่าตัด เป็นต้น และ กลุ่มความงาม ที่จะมีสินค้าเป็น แอนท์เพลท (แผ่นปิดสิว) ที่มีคุณสมบัติหยุดการเกิดสิวอักเสบทันที เชื่อว่าจะเป็นตลาดที่มีกระแสตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากประเทศไทยมีไลฟ์สไตล์ในการดูแลสุขภาพตัวเอง สูงเช่นเดียวกับสังคมยุโรป
?สินค้าตัวใหม่นี้จะเปิดตัวในเดือนพ.ค. โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนในกทม.เป็นหลัก ยอดขายเราวางไว้ที่ 90 ล้านบาท พร้อมกับตั้งงบทำการตลาดร่วมกัน กับ BenQ ไว้ที่ 20 ล้านบาท ทั้ง Above the line และ Below the line ส่วนในปีที่ 2 คาดว่ายอดขายจะเพิ่มไปที่ 200 ล้านบาท เพราะในเมืองไทยเอง เรายังไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจน? นายณัฐพงศ์กล่าวในที่สุด
จากเป้าหมายดังกล่าวจะทำให้เป้าหมายภายในปี 2555 ของ V Tech อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนจากงานภาครัฐที่ 30% ภาคเอกชน 30% จากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ร่วมกับ BenQ อีก ราว 15% และอื่นๆอีก 5%