นางศิริกุล กสิวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ อพท. (บริหาร) กล่าวต้อนรับนักศึกษาฝึกงานของ อพท. จำนวน ๗ คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากรและมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานแนะนำตนเองต่อผู้บริหารระดับสูงของ อพท. โดยกล่าวย้ำให้นักศึกษาฝึกงาน เรียนรู้ที่จะอยู่กับสังคม แม้ว่าระยะการฝึกงานจะสั้นเพียง ๒ เดือน แต่การฝึกงานจะต้องทำงานกับผู้คนในสังคมที่หลากหลายอายุ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคม และควรปฏิบัติงานทุกอย่างทั้งเรื่องเล็ก ๆ เช่น การพิมพ์งาน การถ่ายเอกสาร ไปจนถึงช่วยเหลือเรื่องใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ อพท.ดำเนินการอยู่ ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องจดจำชื่อเต็ม ชื่อย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษของ อพท.ได้แม่นยำ รู้แนวคิดการทำงาน เพื่อที่จะนำประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงานนี้นำไปถ่ายทอดแก่ผู้อื่นได้อย่างทุกต้อง
นายสุธีร์ สธนสถาพร รักษาผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง (สบก.) กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานของ อพท. ว่า นักศึกษาฝึกงานควรศึกษาข้อมูลวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ และโครงสร้างการบริหารภายในของ อพท. รวมถึงผลการปฏิบัติงานตามคำรับรองปี ๒๕๔๘ — ๒๕๕๔ โดยมีนวัตกรรมการบริหารจัดการภายในองค์กร (DASTA INNOVATION MANAGEMENT) เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานในองค์กรให้เป็น Low Carbon Office โดยมีการใช้กระดาษน้อย เพราะทำงานอยู่บนระบบ ERP ทั้งหมด ที่ผ่านมา ได้ดำเนินโครงการ DASTA Ball เฉลิมพระเกียรติ และดำเนินนโยบาย Co-Creation มีการจัดงาน Thailand Sustainable Tourism และดำเนินงานการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายสุเทพ เกื้อสังข์ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจุดยืนของ อพท. ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยว่า กลไกการทำงานจะมีหน่วยงานที่ทำงานด้าน Demand side คือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซึ่งทำหน้าที่ทางด้านการขาย การประชาสัมพันธ์และการทำการตลาดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ส่วนทางฝั่ง Supply side จะประกอบด้วยหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการทำงานของ อพท.อยู่ทางฝั่ง Supply side ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เพราะ อพท. จะบริหารจัดการพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ได้ดำเนินการทุกจังหวัด เราทำเฉพาะพื้นที่ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้มีสำนักงานพิเศษ ๑-๕ รวมถึงพื้นที่ที่เตรียมจะประกาศเป็นพื้นที่พิเศษด้วย เช่น พื้นที่เมืองโบราณอู่ทอง และพื้นที่ อพท.เมืองน่าน
สทช. มีหน้าที่ในการดำเนินงานท่องเที่ยวโดยชุมชนและสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง สามารถแบ่งภารกิจออกเป็น ๔ งาน คือ
๑) งานท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) เช่น ถ้าเดินทางไป สพพ.๔ ก็ต้องเรียนรู้ศึกษาประวัติศาสตร์พื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร และปั้นเครื่องปั้นดินเผา ถ้าไปพื้นที่พิเศษเลย (สพพ.๕) ที่อำเภอด่านซ้ายก็เรียนรู้การทำหน้ากากผีตาโขน และให้คนด่านซ้ายเล่าตำนานผีตาโขนให้นักท่องเที่ยวฟัง ฯลฯ
๒) งานเสริมสร้างศักยภาพการท่องเที่ยว
๓) งานสร้างภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยว การทำงานไม่สามารถดำเนินการโดยลำพังเพียงองค์กรเดียวจะต้องประสานการทำงานกับทุกสำนักใน อพท. และหน่วยงานนอก อพท. ทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ภาคประชาชน และสื่อมวลชน เพื่อให้การดำเนินการมีความคล่องตัวและสำเร็จตามวัตถุประสงค์
๔) งานวิชาการท่องเที่ยว จะต้องดึงเอาความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านมาประยุกต์ใช้กับ สทช. สามารถส่งเสริมให้คนในชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ เข้าใจความหมายการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมว่าเป็นอย่างไร
นายสุริยะ ศรีเสาวคนธ์ หัวหน้างานจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารแผนพื้นที่พิเศษ สำนักแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ (สผพ.) กล่าวว่า สผพ. ถือเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการประกาศพื้นที่พิเศษ และการจัดทำแผนของ อพท.
ซึ่งนักศึกษาฝึกงานควรศึกษานิยามของคำว่า การอนุรักษ์ การพัฒนา การบริหารการพัฒนา พื้นที่พิเศษ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องจากคำนิยามเหล่านี้มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของ อพท.
การจัดทำแผนของ อพท. สามารถแบ่งได้เป็น ๒ ระดับคือ แผนการกำหนดทิศทางการดำเนินงานในภาพรวมเชิงบูรณาการ เช่น แผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ และ แผนงาน ซึ่งเป็นการนำนโยบายลงไปสู่การปฏิบัติ เช่น แผนงานดำเนินโครงการตั้งแต่ ๒ โครงการขึ้นไปที่มีกำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดที่แน่นอน
ทั้งนี้ โครงสร้างการดำเนินงานของ สผพ. ประกอบไปด้วย ๔ งานที่มีความสำคัญคือ
๑) งานข้อมูลสารสนเทศแหล่งท่องเที่ยว
๒) การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ
๓) งานสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่พิเศษ
๔) งานพัฒนาธุรกิจและบริการในพื้นที่พิเศษ
นางจินตนา สิงหเทพ เจ้าหน้าที่พัฒนาพื้นที่พิเศษ สำนักงานพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง (สพพ.๑) กล่าวว่า สพพ.๑ กำลังดำเนินการ Low carbon Tourism เน้นการบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้พัฒนาที่เกาะหมากเพื่อสร้างการตระหนักรับรู้ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะหมาก ให้เห็นคุณค่าของทรัพยากรทางธรรมชาติ ด้วยการเข้าไปช่วยชุมชนในการบริหารจัดการขยะ การจัดการน้ำ สร้างการเชื่อมโยงของแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะหมาก และได้ประชาสัมพันธ์ด้วยการจัดแรลลี่จักรยานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเมื่อปีที่แล้ว
พร้อมกับยกตัวอย่างพื้นที่เกาะขาม ซึ่งเป็นเกาะบริวารของเกาะหมากว่า ที่ผ่านมา เกาะขามมีการซื้อขายเกาะกันในราคา ๘ ล้านบาท และผู้ซื้อเกาะก็มีการขายต่อในราคา ๓๐ ล้านบาท และไม่นานมานี้ประมาณ ๔-๕ ปีมาแล้ว ก็ซื้อขายกันในราคา ๒๐๐ ล้านบาท เกาะขามมีหินภูเขาไฟที่หาได้ยาก มีหาดทรายที่ละเอียดสวยงาม เป็นสิ่งที่ควรตระหนักถึงคุณค่าว่าจะทำอย่างไรให้พื้นที่เกาะขามมีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติในพื้นที่
นายอาชวิน สุขสว่าง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและประสานงานสำนักงานพื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร (สพพ.๔) กล่าวว่า สพพ.๔ จะทำหน้าที่เป็น อพท. เพื่อเข้าไปบริหารจัดการพื้นที่เพื่อสร้างต้นแบบในการบริหารการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ทั้ง ๓ แห่ง ตามแนวทางการบริหารจัดการแหล่งมรดกโลก ซึ่งแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการจะต้องสอดคล้องกับข้อผูกพันของอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก รวมทั้งดึงภาคีเครือข่ายการพัฒนามาร่วมเป็นภาคีในแต่ละเรื่อง กรอบการดำเนินงานมีอยู่ ๕ เรื่องที่สำคัญคือ
๑) การอนุรักษ์เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
๒) การใช้ประโยชน์ในที่ดินรอบอุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง ๓ แห่ง และการบริหารจัดการชุมชนในพื้นที่พิเศษ ปัจจุบันมีชุมชนในพื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร ประมาณ ๒๐ ชุมชน
๓) การดำเนินการให้ชุมชนช่วยอนุรักษ์อุทยานประวัติศาสตร์
๔) เข้าไปช่วยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อพื้นที่พิเศษ
๕) จะพัฒนาและลงทุนอย่างไร ให้เหมาะสมกับพื้นที่พิเศษ
ซึ่งขณะนี้ สพพ.๔ อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำภาพยนตร์เรื่องสั้นสื่อสร้างสรรค์ จำนวน ๙ เรื่อง โดยจะผลิตออกมาครั้งแรกจำนวน ๒ เรื่อง
นายสุรอาจ คุณกมุท ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและประสานงานสำนักงานพื้นที่พิเศษเลย (สพพ.๕) เล่าถึงการดำเนินงานของพื้นที่พิเศษเลย ว่าได้ดำเนินการตามขอบเขต ๙ อำเภอ ไม่ได้ครอบคลุมทั้งจังหวัดเลย โดยจัดกลุ่มพื้นที่ได้ ๓ กลุ่มคือ
กลุ่มที่ ๑ อำเภอเมือง อำเภอเชียงคาน อำเภอท่าลี่
กลุ่มที่ ๒ อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย อำเภอนาแห้ว
กลุ่มที่ ๓ อำเภอภูกระดึง อำเภอภูหลวง อำเภอหนองหิน
โดยทั้ง ๙ อำเภอนี้ จะครอบคลุมองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งสิ้น ๖๘ แห่ง โดยได้อธิบายการดำเนินงานของ สพพ.๕ ว่าได้ลงพื้นที่ไปคุยกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ลงพื้นที่เข้าหาชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ติดต่อสอบถามได้ที่
นางสาวชมพูนุท ธาราสิทธิโชค
เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กร อพท. [email protected]