นายวงศ์วิทย์ วิจารณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APS ผู้ประกอบธุรกิจจัดหา และผลิตข้อมูลในรูปแบบต่างๆ (Content Provider) เพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สื่อวิทยุและบริหารผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60 ล้านหุ้น ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
ทั้งนี้ บริษัท เอพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหา และผลิตข้อมูลในรูปแบบต่างๆ (Content Provider) เพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สื่อวิทยุและบริหารผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยบริษัทฯ มีนโยบายประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชนและการตลาดแบบครบวงจร โดยมีธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ธุรกิจบริหารสถานีวิทยุกระจายเสียง และธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพลัสฯ กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนั้น ปัจจุบัน บริษัทฯ ทำการเผยแพร่รายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 4 สถานี ได้แก่ 1.ฮิตส์ สแควร์ (Hit Square) 2.โอเค (OK-TV) 3.ฮิตส์โกลบอล (Hit Global) และ 4.เอเชียฮิตส์ (Asia Hits) โดยในปัจจุบัน โทรทัศน์ดาวเทียมทั้ง 4 สถานีมีขอบเขตให้บริการทั่วประเทศ และภาคพื้นเอเชีย ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมสัญญาณได้จาก 3 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย ผ่านระบบเคเบิลทีวีท้องถิ่น ผ่านระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในระบบ C-BAND ของดาวเทียมไทยคม และผ่านระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในระบบ KU-BAND ของดาวเทียม NSS-6 โดยรูปแบบรายการของ Hit Square และ Hit Global มุ่งเน้นการเสนอรายการเพลงลูกทุ่ง ส่วน OK-TV มุ่งเน้นการเสนอรายการวาไรตี้ สุขภาพและบันเทิง ขณะที่ Asia Hits เน้นรายการเพลงสำหรับวัยรุ่นอายุประมาณ 12-18 ปี ที่มีทั้งเพลงเกาหลี ญี่ปุ่นและไทย
สำหรับธุรกิจบริหารสถานีวิทยุกระจายเสียงในปัจจุบัน บริษัทฯทำการบริหารสถานีวิทยุกระจายเสียงอยู่ทั้งสิ้น 2 สถานี คือ คลื่น FM 104.5 MHz จังหวัดนครศรีธรรมราช คลื่น FM 94.75 MHz จังหวัดสกลนคร
ด้านธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรม ถือเป็นธุรกิจที่ทำรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับบริษัทฯ เนื่องจากผู้บริหารมีประสบการณ์มานาน และสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้เป็นอย่างดี โดยสามารถแบ่งตามประเภทลูกค้าได้ 2 ประเภท คือ ลูกค้าหน่วยงานราชการ เช่น งานด้านสื่อสารมวลชน งานรัฐกิจสัมพันธ์ งานด้านยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานโฆษณาและงานกิจกรรมของหน่วยงานรัฐต่างๆ ส่วนลูกค้าอีกประเภท จะเป็นลูกค้าภาคเอกชน ซึ่งสามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มแรก เป็นลูกค้าที่มีสัญญาจ้างงานประชาสัมพันธ์เป็นรายเดือนในระยะเวลา 6-12 เดือน และลูกค้าประเภทรายกิจกรรม ซึ่งมักจะเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดของสินค้าและบริการ (Event Marketing)
“เงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำไปปรับปรุงเครื่องมืออุปกรณ์ในธุรกิจ เช่น ห้องส่ง ระบบตัดต่อ ระบบควบคุมการออกอากาศ รวมถึงลงทุนในช่องรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องใหม่ ตลอดจนพัฒนาธุรกิจวิทยุ และขอใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงเพิ่มเติม และอีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งเราเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์ที่ต่อเนื่องและยาวนานของกลุ่มผู้บริหารบริษัทฯ อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน ประกอบกับความต้องการข่าวสาร ข้อมูลตลอดจนความบันเทิงของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทฯ มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายวงศ์วิทย์กล่าว