คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ อดีตผู้จัดการพัฒนาธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเพ่น แพลตฟอร์ม เข้ารับตำแหน่งใหม่ในฐานะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป โดยคุณมนต์ธีร์จะมีหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรและบริหารทรัพยากรทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือองค์กรในการปรับเปลี่ยนธุรกิจโอพีในส่วนของประเทศไทยทั้งหมด คุณมนต์ธีร์จะรายงานโดยตรงต่อเอซุสสำนักงานใหญ่ ประเทศไต้หวัน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและคล่องตัวให้กับส่วนปฏิบัติงานของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม ของเอซุสในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ประกอบไปด้วยสายผลิตภัณฑ์อันหลากหลายและต้องการการโฟกัสด้านตลาดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ภายใต้การนำของคุณมนต์ธีร์ กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มของเอซุส มีเป้าหมายในการตอบสนองนโยบายของสำนักงานใหญ่ในการสร้างความเติบโตให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มธุรกิจโอพีให้เป็นที่รู้จักและเชื่อถือในหมู่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ความทนทาน และดีไซน์ที่สวยงามดึงดูดใจ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและตรงจุด
คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ปัจจุบันภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์โอเพ่น แพลทฟอร์ม ในประเทศมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นมาเธอร์บอร์ด 1,500 ล้าน วีจีเอการ์ด 900 ล้านเน็ตเวิร์คโซลูชั่น 40 ล้าน และจอแอลซีดี 3,000 ล้าน โดยผลประกอบการในปี 2554 ที่ผ่านมาของเอซุสในส่วนของผลิตภัณฑ์โอพี ซึ่งประกอบด้วย มาเธอร์บอร์ด วีจีเอการ์ด ไวเลส เน็ตเวิร์ก แอลซีดี รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ มี รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และสำหรับผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ที่เพิ่งปิดยอดไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจโอพีมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้ว โดยมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมาเธอร์บอร์ดเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างรายได้สูงสุดกว่า 60% หรือประมาณ 270 ล้านบาท ตามมาด้วย วีจีเอการ์ด 25% แอลซีดี 5% อุปกรณ์เครือข่ายแบบไร้สาย 2%
“สำหรับในปี 2555 นี้บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร โดยตลอดทั้งปี เราจะเน้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฮมโซลูชั่น (Home Solutions) อันประกอบด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานเพื่อกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มเกมมิ่ง แอท โฮม (Gaming at home) หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับคอเกมส์ เช่น เดสก์ทอป มาเธอร์บอร์ด และวีจีเอการ์ด กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มมัลติมีเดียภายในบ้านเพื่อความบันเทิง (Multimedia at home) เช่น อุปกรณ์มัลติเพลย์เยอร์คุณภาพสูง O!Play และอุปกรณ์แปลงสัญญาณอะนาล็อกเป็นดิจิตอลอย่าง Xonar Essence One DAC ที่ช่วยให้เกิดสุนทรยภาพในการฟังเพลงในระดับไฮไฟ และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่ม โฮมออฟฟิศ (Office at home) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการทำงานตั้งแต่ระดับทั่วไปไปจนถึงระดับไฮเอ็นด์ เช่น งานกราฟฟิค งานออกแบบ งานด้านสถาปนิก ฯลฯ โดยประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ อาทิ เดสก์ท็อป ออลอินวันพีซี และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ โดยบริษัทฯ จะไม่สร้างการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยคุณภาพและดีไซน์ที่สวยงามเปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง รวมถึงผลประโยชน์ที่เหนือกว่าสำหรับผู้บริโภค โดยวางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นเอ็นด์ยูสเซอร์ในระดับพรีเมี่ยม และผู้ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ”
“สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ จะเน้นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่าน โมเดิร์นเทรด และซูเปอร์ สโตร์ต่างๆ ทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้นอีก 70% พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในการโปรโมทการแข่งขันเกมส์ต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ True Digital Plus โดยให้การสนับสนุนการแข่งขัน GG E-sport Champion League 2012 by ASUS ที่เพิ่งมีการแถลงข่าวเปิดรับสมัครแข่งขันไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยในงาน เราได้ให้การสนับสนุนเดสก์ทอปสำหรับเกมมิ่งจำนวน 60 ตัว รวมถึงผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและวีจีเอการ์ดจากเอซุส รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์สำหรับเกมเมอร์ซีรีส์ต่างๆ ภายในงาน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเราอย่างใกล้ชิด และสามารถจดจำแบรนด์และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ของผลิตภัณฑ์จากเอซุส เพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งในการซื้อหามาใช้งานภายในบ้านส่วนตัวหรือตามร้านเกมส์ต่างๆ ต่อไป”
คุณมนต์ธีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2555 นี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มงบการตลาดกว่า 10% โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจโอพีเพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารการตลาดทั้งแบบอะโบฟเดอะไลน์ (Above-the-line) และแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) โดยในปีนี้ เราจะเน้นการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้าให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยเราแบ่งกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มดีลเลอร์ กลุ่มเอ็นด์ยูสเซอร์ และกลุ่มสื่อมวลชนและผู้นำทางความคิดต่างๆ โดยสำหรับกลุ่มดีลเลอร์นั้น เรามีการเข้าไปอบรมความรู้เกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ เทคนิคการขาย และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และผลประโยชน์จากสินค้าต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์แบบ Life Demo ที่จะช่วยให้เห็นภาพพจน์ของการทำงานและฟังก์ชั่นต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ในส่วนของเอ็นด์ยูสเซอร์ นอกจากเราจะเข้าไปเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ ในการจัดการแข่งขันเกมส์ หรืองานอีเว้นต์ต่างๆ แล้ว เรายังจัด Demo ไปแสดงตามงานโร้ดโชว์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองสำคัญๆ ในต่างจังหวัดอีกด้วย โดยเรามีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เอ็นด์ยูสเซอร์ได้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเอซุสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะเราไม่เน้นการแข่งขันราคา เราจึงต้องการให้เอ็นด์ยูสเซอร์เล็งเห็นถึงคุณสมบัติและประโยชน์ด้านการใช้งานจากประสบการณ์จริง นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนและผู้นำทางความคิดต่างๆ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะช่วยถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร บอกต่อ และแนะนำสินค้าของเรา เพื่อเป็นการดึงเอ็นด์ยูสเซอร์ให้เข้าสู่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป”
“ในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก รวมถึงเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศไทยถึง 55% เราจะยังคงนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ หวังว่าในปี 2555 นี้ เราจะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ โอพีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ภายในสิ้นปี และรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมในส่วนของผลิตภัณฑ์ มาเธอร์บอร์ด และวีจีเอการ์ด ได้อย่างต่อเนื่อง” คุณมนต์ธีร์ กล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:
ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพล็ตฟอร์ม (โอพี บีจี)
บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
คุณมนธกานต์ ชัทท์ (แพร)
โทรศัพท์ 081-019-1129 อีเมล์: [email protected]