นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลประกอบธนาคารในไตรมาสที่ 1/2555 ว่าธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้จำนวน 9,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,144.7 จากไตรมาส 4/2554 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.29 จากไตรมาส 1/2554 มีกำไรสุทธิ 6,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 692 จากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.18 จากระยะเดียวกันของปีก่อน ธนาคารมียอดสินเชื่อ 1,488,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 จำนวน 65,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.57 และมียอดเงินฝาก 1,460,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175,193 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.63
ทางด้านอัตรารายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์รวม (NIM) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับร้อยละ 2.73 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.84 สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ลดลงจากร้อยละ 49.32 เหลือร้อยละ 48.54 จากการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ของธนาคาร
ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) จำนวน 64,647 ล้านบาท โดยสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิ (Net NPL) ลดลงจากร้อยละ 2.25 ณ 31 ธันวาคม 2554 เหลือร้อยละ 2.19 ณ 31 มีนาคม 2555 และในไตรมาสแรกนี้ ธนาคารได้กันสำรองจำนวน 1,527 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 500 ล้านบาท มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับร้อยละ 13.08
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวต่อไป ธนาคารพอใจกับผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสูงกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้าจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านสินเชื่อ ซึ่งมีอัตราเติบโตเร็วกว่าที่ธนาคารกำหนดไว้ ทั้งสินเชื่อขนาดใหญ่ และสินเชื่อรายย่อย ซึ่งธนาคารมั่นใจว่าในปีนี้ สินเชื่อจะเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 7 อย่างแน่นอน