นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยพลัส มีเดีย จำกัด และบริษัท ไทยเฮลท์ จำกัด เผยว่า “ตอนนี้ทีมบริหารได้เข้ามาร่วมทุนธุรกิจ และเป็นเจ้าของ เรดิโอโอเค ซึ่งพร้อมเข้าบริหารงานอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งคลื่นวิทยุภายในเครือเรดิโอโอเคทั้งหมดก็ได้กลับมาให้บริการผู้ฟังอีกครั้งแล้วด้วยเช่นกัน สำหรับการเข้ามาบริหารในครั้งนี้ เรดิโอโอเคจะอยู่ภายใต้เจ้าของคือ บริษัท ไทยพลัส มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโทรทัศน์เคเบิ้ล “สวัสดีทีวี” ที่สามารถรับฟังได้ทางจากดาวเทียมระบบ C-Band ช่อง 69 และ KU-Band ช่อง 22 โดยมีผมเข้ามาดูแลทีมบริหารงานทั้งหมด พร้อมกับทีมงานใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวิทยุเครือข่ายทั่วประเทศและทีมงานเรดิโอโอเคทีมเก่าที่มีคุณภาพทีมเดิม มาช่วยผนึกกำลังและเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีตามที่กำหนดไว้”
โดยนายพันธุ์ยศ อัครอมรพงศ์ เปิดเผยต่อว่า “จากการสำรวจตลาดธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย ฟรีทีวี 6 สถานี สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมประมาณ 200 สถานี เคเบิ้ลท้องถิ่น 500 สถานี เคเบิ้ลท้องถิ่นระดับชาติ 1 สถานี วิทยุ 600 สถานี และวิทยุชุมชน 6,000 สถานี โดยมีมูลค่าของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนรวมประมาณ 1.5 แสนล้านบาท สำหรับภาพรวมธุรกิจวิทยุในปี 53 อยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่องจากปีก่อน โดยไม่มีการเติบโตแต่อย่างใด และมีมูลค่าธุรกิจรวม 5,000-6,000 ล้านบาท ดังนั้นเราจึงมีโอกาสอีกมาก จึงได้ตัดสินใจเข้ามารวมธุรกิจเข้าบริหารงานคลื่นวิทยุเรดิโอโอเค แม้หลายคนจะมองว่าสื่อวิทยุอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ด้วยความเป็นเรดิโอโอเคที่มีทีมงานบริหาร ทีมงานผลิต รวมทั้งดีเจ ของเรารวมไปถึงความนิยมที่เห็นได้ชัดจากกลุ่มผู้ฟังทั่วประเทศ ผมมองว่าสื่อวิทยุยังเป็นสื่อที่น่าสนใจ และยังไปได้สวย รวมไปถึงมั่นใจว่าการรวมธุรกิจในครั้งนี้จะทำให้ บริษัท ไทยพลัส มีเดีย เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง โดยเราจะยังคงจำนวนของคลื่นไว้ตามเดิมคือ โอเคฮุก, โอเคเลิฟ โอเคลูกทุ่ง และจะเพิ่มโอเคนิวส์เข้าไปด้วย เพื่อตอบรับกับกลุ่มคนฟังที่นิยมบริโภคข่าวสารความเคลื่อนไหวในรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเจของสถานการณ์ต่างๆ ในยุคปัจจุบัน”
“ด้วยจุดเด่นของคลื่นที่นอกจากจะเป็นในเรื่องของ Format คลื่นที่ถูกวางรากฐานในเรื่องของการคัดสรรค์เพลงอย่างเป็นระบบและเหล่าดีเจที่มากประสบการณ์ จุดสำคัญอีกจุดของคลื่นคือเครือข่ายทั่วประเทศของทั้งคลื่นโอเคฮุค โอเคเลิฟ โอเคลูกทุ่ง และน้องใหม่อย่างโอเคนิวส์ ที่ครอบคลุมทั่วปรเทศกว่า 90 สถานี ซึ่งทางไทยพลัสมีเดีย ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจเรดิโอโอเคต่อ จากเดิมที่เราเป็นกลุ่มผู้นำทางด้านวิทยุเครือข่ายกว่า 200 สถานีทั่วประเทศที่มีอยู่แล้ว ในการรวมธุรกิจกันครั้งนี้ ก็จะนำเอาเครือข่ายวิทยุทั้งหมดที่มีมารวมกับทางเรดิโอโอเค ซึ่งก็จะมีเครือข่ายมากกว่า 300 สถานีทั่วประเทศ อีกทั้งจะพัฒนาและเพิ่มเครือข่ายให้แข็งแรงเพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกภาคส่วน รวมถึงเป้าหมายที่จะผลักดันให้เรดิโอโอเคเป็นวิทยุในรูปแบบวิทยุเครือข่ายที่มากที่สุดภายในระยะเวลา 2 ปี ทั้งนี้ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าเรดิโอโอเคจะมีเครือข่ายครอบคลุมเพิ่มขึ้นกว่า 30 % จากของเดิมที่มีอยู่แน่นอน” นายพันธ์ยศ กล่าว
นายพันธ์ยศยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในการเข้ามานั่งบริหารงานของผม ผมก็ได้เตรียมทีมบริหารเพื่อที่จะเข้ามาดูแลคลื่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้เราก็ได้เตรียมงบการตลาดไว้ที่ 20-30 ล้าน สำหรับการทำการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับคนฟังของเรา โดยแคมเปญแรกที่กำลังโปรโมทอยู่ ถูกจัดขึ้นเพื่อขอบคุณกลุ่มคนฟังที่ติดตามเรดิโอโอเคมาตลอด ด้วยการบินลัดฟ้าไปชมสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ มณฑลซีอาน ประเทศจีน กับดีเจที่ชื่นชอบ ซึ่งคนฟังผู้โชคดีสามารถเลือกดีเจแต่ละคลื่นร่วมทริปไปได้ ภายใต้แคมเปญที่ชื่อ “เรดิโอโอเคใจปล้ำ” ส่วนแคมเปญอื่นๆ จะตามมาเรื่อยๆ คิดว่าในปีนี้น่าจะมีประมาณ 4-5 กิจกรรมใหญ่ๆ ภายใต้คอนเซป “โอเค-จัดไป” ทั้งท่องเที่ยว คอนเสิร์ต และกิจกรรม ที่จะให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมกับเรดิโอโอเคให้มากที่สุด โดยแผนการตลาดคงจะเน้นที่ความแตกต่างและความโดดเด่นของดีเจเป็นหลัก รวมทั้งจะเปิดรับสมัครดีเจหน้าใหม่ไฟแรง มาร่วมงานกับเรา เพื่อเติมความสดใหม่ให้กับคลื่น และจะทำการขยายคลื่นให้ครอบคลุมพื้นที่มากกว่านี้ ทั้งนี้คาดว่าจะต้องเติบโตอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 20-30% โดยมองจากฐานลูกค้าที่มีอยู่ และฐานกลุ่มคนฟังที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกิจกรรมที่เราจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนของรายได้หลักจะมาจากการขายโฆษณาและกิจกรรมที่เตรียมจัดขึ้นตลอดทั้งปี
สำหรับในส่วนของไทยพลัส มีเดีย เป้าหมายของบริษัท คือ การเป็นบริษัทเอกชนที่มีสื่อครอบคลุมและแข็งแกร่งมากที่สุด ภายในปี 2556-2557 รวมทั้งมีกลุ่มผู้ฟังที่ให้การสนับสนุนมากที่สุดอีกด้วย