นายพลชม จันทร์อุไร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ เปิดเผยว่า บริษัทในเอสซีจี เคมิคอลส์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ประกอบด้วย ระยองโอเลฟินส์ ไทยโพลิเอทธิลีน ไทยเอ็มเอ็มเอ ไทยโพลิโพไพลีน ไทยพลาสติก และสยามมิตซุย พีทีเอ ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการเทคโนโลยีการวิเคราะห์และบริหารจัดการการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในวงกว้าง (The Area-Wide Pinch Technology Project in Thailand) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น (NEDO) ในการนำเทคโนโลยีเพื่อช่วยวิเคราะห์การใช้พลังงานในโรงงานปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน และโรงไฟฟ้า ของประเทศญี่ปุ่น เข้ามาดำเนินงานในโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยนำร่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นแห่งแรก มีบริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 15 บริษัท และจะมีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี
“การลดพลังงานและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ของเอสซีจี เคมิคอลส์ โดยเรามีการบริหารจัดการการใช้พลังงานและกระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นต้นแบบโรงงานเชิงนิเวศ (Eco Factory) มาอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมของชุมชนโดยรอบโรงงาน (Eco Community) ซึ่งเดิมทีเอสซีจี เคมิคอลส์ มีการใช้เทคโนโลยี pinch analysis เพื่อวิเคราะห์การลดการใช้พลังงานในระดับโรงงานและได้ผลเป็นที่น่าพอใจอยู่แล้ว แต่การได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้จะช่วยให้สามารถนำ pinch technology มาประยุกต์ในระดับที่สูงขึ้น เพื่อวิเคราะห์หาความเป็นไปได้ในการลดพลังงานในระดับหลายๆ โรงงาน นับเป็นจุดเริ่มต้นอันดีของความร่วมมือในการบริหารจัดการพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมภายในนิคมฯ มาบตาพุด อันจะช่วยส่งเสริมให้มาบตาพุดเดินหน้าสู่การเป็น Eco Industrial Town หรือ เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในอนาคตอันใกล้” นายพลชม กล่าว