ความเป็นมาของ "รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล"

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๕ มีการจัดตั้ง "รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล" ขึ้น โดยจะมอบรางวัลนี้ให้แก่บุคคลและองค์กรทั่วโลก ที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติทางการแพทย์ และสาธารณสุข อย่างละ ๑ รางวัล โดยในปี ๒๕๔๗ ที่ผ่านมา คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานตัดสินรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๔๗ สาขาการแพทย์ ได้แก่ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ นอร์แมน ซาทอเรียส จากสหพันธรัฐเยอรมนี จากผลงานพัฒนาระบบจำแนกโรคทางจิต และการศึกษาวิจัยนานาชาติเกี่ยวกับลักษณะทางคลินิกและความชุกของโรคจิตเภท โรคซึมเศร้าและโรคทางจิตอื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่การประยุกต์ใช้ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา และรางวัลในสาขาสาธารณสุข ได้แก่ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ โจนาธาน เอ็ม ซาเม็ท หัวหน้า ภาควิชาระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ สหรัฐอเมริกา จากผลงานด้านระบาดวิทยาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของมนุษย์ส่งผลให้ทั่วโลกรณรงค์ควบคุมและ ป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมจากมลพิษทางอากาศ ทั้งสองท่านเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้านแพทย์และสาธารณสุข ให้กับมวลมนุษย์ทั้งโลก สมดังพระปณิธานของสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ซึ่งในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๔๘ ที่จะถึงนี้ บุคคลทั้งสองจะเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประกอบด้วยเหรียญรางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล รางวัลละ ๕๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ ๒ ล้านบาท ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
สมเด็จพระหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประสูติเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๓๔ ทรงศึกษาวิทยาการต่างประเทศด้านการทหาร แล้วเสด็จกลับมารับราชการในกระทรวงทหารเรือ แต่ทว่า พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะศึกษาด้านการแพทย์ เพราะบ้านเมืองในขณะนั้นมีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงด้านการแพทย์และสาธารณสุขเป็นอย่างมาก จึงได้เสด็จไปศึกษาวิชาสาธารณสุขที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ๒๔๖๐ และเสด็จกลับมาบำเพ็ญประโยชน์ต่อวงการแพทย์ สาธารณสุข การพยาบาล การเภสัชกรรม ทันตศึกษา และทรงวางรากฐานให้การแพทย์ของไทยเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมอารยประเทศจนได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย"--จบ--