“จะเห็นได้ว่าอัตราการนำระบบเสมือนจริงเข้ามาใช้ในองค์กรเพิ่มสูงขึ้นถึง 80% ในบางประเทศ และยอดจำหน่ายของอุปกรณ์มือถือทั่วโลกได้แซงหน้ายอดจำหน่ายพีซีเมื่อสิ้นปี 2554 ขณะที่การละเมิดด้านความปลอดภัยก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้จัดเตรียมโซลูชั่นและบริการของเราเพื่อช่วยลูกค้าเอาชนะความท้าทายใหม่ๆ ด้านความปลอดภัย ที่เกิดจากแนวโน้มเหล่านี้” อีวา เชน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท เทรนด์ ไมโคร กล่าว
การประมวลผลแบบคลาวด์: Deep Security ช่วยให้การปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลเร็วขึ้น
การประมวลผลแบบคลาวด์กำลังปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลทั้งในรูปแบบสาธารณะและส่วนตัว เมื่อองค์กรได้ปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลให้กลายเป็นระบบเสมือนจริงและขยายปริมาณงานและข้อมูลเข้าสู่ระบบคลาวด์ สาธารณะมากขึ้น ขอบเขตของศูนย์ข้อมูลจึงเริ่มหายไป ส่งผลให้องค์กรธุรกิจต้องพบกับความท้าทายใหม่ๆ ด้านความปลอดภัย ด้านการจัดการ และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อันเป็นผลมาจากกการปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลจากระบบจริงเป็นระบบเสมือน และการก้าวเข้าสู่ระบบคลาวด์
“แนวความคิดในของการสร้างคูล้อมรอบปราสาทเพื่อป้องกันสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในปราสาทนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว เนื่องจากข้อมูลและปริมาณงานของเซิร์ฟเวอร์กลายเป็นระบบเสมือนจริงและระบบผ่านมือถือ ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยและการป้องกันจึงจำเป็นที่จะต้องก้าวไปในทิศทางดังกล่าวด้วย” เชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เห็นได้จากความร่วมมือของเรากับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ อย่าง บริษัท เดลล์ บริษัท เอ็นทีที อเมริกา และบริษัท จงหวา เทเลคอม ในไต้หวัน ที่ได้เลือกให้บริษัท เทรนด์ ไมโคร เข้ามาช่วยจัดเตรียมระบบความปลอดภัยและการป้องกันข้อมูลสำหรับแพลตฟอร์มระบบคลาวด์สาธารณะและส่วนตัว”
ในปี 2555 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบคลาวด์และระบบเสมือนจริงของบริษัท เทรนด์ ไมโคร มีอัตราการขยายตัวที่ระดับ 13% เมื่อเทียบปีต่อปี และสามารถขยายตัวในภูมิภาคทั่วโลกทั้งหมดที่ระดับ 100%+ โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 ธุรกิจนี้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปีที่ระดับ 129%
Trend Micro Deep Security และ SecureCloud เป็นโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยสำหรับศูนย์ข้อมูลที่พร้อมจะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วด้วยการจัดเตรียมช่องทางในการป้องกันข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์เชิงลึกอย่างทั่วถึงทั้งในระบบจริง ระบบเสมือน หรือระบบคลาวด์ ซึ่งนั่นจะนำไปสู่ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในระบบเสมือนจริงที่มากขึ้น และการจัดการที่ง่ายดาย
การใช้เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่แพร่หลายในองค์กร: ยุคแห่งการบริโภคเทคโนโลยี (Bring-Your-Own-Device) กำลังเข้าสู่ภาวะสมดุล
บริษัท ไอดีซี คาดการณ์ว่าการใช้เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่แพร่หลายในองค์กร จะเป็นแนวโน้มที่มีอิทธิพลสูงสุดแนวโน้มเดียวที่มีผลต่อภาคส่วนเทคโนโลยีในทศวรรษที่กำลังจะมาถึงนี้ โดย BYOD, VDI และ SaaS กำลังเปลี่ยนรูปแบบอุปกรณ์ปลายทางขององค์กร นั่นคือข้อมูลองค์กร และทรัพยากรในจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังถูกเข้าถึงผ่านทางอุปกรณ์มือถือที่บริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของ หรือไม่ได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยโดยฝ่ายไอทีขององค์กร ซึ่งมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การละเมิดความปลอดภัยหรือการสูญเสียข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
“ฝ่ายไอทีขององค์กรกำลังสูญเสียการควบคุมในยุค BYOD และพวกเขากำลังกังวลอย่างมากต่อความเสี่ยงและข้อบกพร่องที่เพิ่มขึ้น โดย 78% ของบริษัทที่เราได้ทำการสำรวจล่าสุดยอมรับว่าพนักงานในองค์กรของตนได้นำอุปกรณ์ส่วนตัวของตนมาใช้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน” เชน กล่าว และว่า “เราพบว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา มีการติดเชื้อมัลแวร์เพิ่มขึ้น 400% ในระบบ Android ลูกค้าของเรายอมรับว่า ในเร็วๆ นี้การจัดการอุปกรณ์มือถือเพียงลำพังไม่เพียงพออีกแล้ว การป้องกันข้อมูลในอุปกรณ์มือถือเหล่านี้ และการทำให้แน่ใจได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะ ‘สะอาด’ ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าสู่เครือข่ายองค์กร กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง”
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการป้องกันอุปกรณ์มือถือ บริษัท เทรนด์ ไมโคร จึงได้ผสานรวมโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบมือถือ ได้แก่ Trend Micro Mobile Security เข้ากับคุณลักษณะด้านการป้องกันข้อมูลเพื่อให้องค์กรธุรกิจสามารถรับมือกับ BYOD ได้
ควบคุมความเสี่ยง: การป้องกัน APT เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น …
ในขณะที่ศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์ปลายทางกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง มุมมองด้านภัยคุกคามก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
ในปี 2555 ถือเป็น “ปีแห่งการละเมิดข้อมูล” เนื่องจากองค์กรจำนวนมากทั่วโลกไม่สามารถรับมือกับการโจมตีแบบมีเป้าหมายขั้นสูงได้ บริษัทต่างๆ ทุ่มเงินนับพันล้านไปกับการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ และการจัดการความเสี่ยง แต่พวกเขาก็ยังคงเกิดปัญหาด้านการละเมิดอยู่
“ในการเผชิญหน้าของภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูง บริษัทต้องยอมรับว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย บริษัทต่างๆ จะต้องมีความสามารถด้านการตรวจหา การป้องกัน และการแก้ไข เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบจากการละเมิด” เชน กล่าว และว่า “ความสามารถของเราในการติดตามรูปแบบการโจมตีเหล่านี้ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการโจมตีแบบแยกส่วน ช่วยให้เราสามารถพัฒนาระบบป้องกันภัยคุกคามอัจฉริยะขึ้นมา ดังที่แสดงให้เห็นแล้วในปฏิบัติการที่ชื่อว่า ‘Operation Ghost Click’ ที่เราได้มีส่วนช่วยหน่วยงานเอฟบีไอและสำนักงานตำรวจของเอสโตเนียในการจัดการกับบ็อตเน็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
ด้านนายอากิฮิโกะ โอมิกาวา กรรมการบริหาร และรองประธานฝ่ายบริหารธุรกิจ คอนซูเมอร์ทั่วโลก บริษัท เทรนด์ ไมโคร กล่าวว่า "สำหรับกลยุทธ์ที่มีต่อผู้บริโภคนั้น บริษัท เทรนด์ ไมโคร ได้มุ่งเน้นไปที่สามส่วนหลัก ได้แก่ ‘ป้องกันอุปกรณ์ของฉัน’ (Protect My Device), ‘ป้องกันสิ่งของของฉัน’ (Protect My Stuff) และ ‘ป้องกันฉันและครอบครัว’ (Protect Me and Family) เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถอาศัยอยู่ในโลกดิจิทัลได้อย่างปราศจากความหวาดกลัวด้านการละเมิดข้อมูล"
บริษัท เทรนด์ ไมโคร ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องชีวิต
ดิจิทัลของผู้บริโภคในทุกแง่มุม โดยอาชญากรรมไซเบอร์กำลังขยายตัวและเป็นอันตรายเพิ่มมากขึ้น ด้วยรูปแบบการโจมตีที่ซับซ้อนของภัยคุกคามต่อข้อมูลในจัดเก็บไว้ในทุกที่ บริษัท เทรนด์ ไมโคร จึงนำเสนอการป้องกันที่ครบวงจรต่อภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนต่อวิถีชีวิตในโลกดิจิทัล ซึ่งครอบคลุมถึงกิจกรรมดิจิทัลและอุปกรณ์ใช้งานทั้งหมด
และในส่วนกลยุทธ์สำหรับผู้บริโภคในระดับภูมิภาคนั้น บริษัท เทรนด์ ไมโคร จะเดินหน้ารักษารายได้และฐานลูกค้าที่มีอยู่ในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ขณะที่จะยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
"ด้วยโซลูชั่นที่มีอยู่เดิมและแผนงานอนาคตที่จะเดินหน้าเข้าสู่ในสภาพแวดล้อมของผู้บริโภค เราคาดว่ารายได้ ในธุรกิจผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวมากกว่า 20% และจะสามารถรเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของช่องทางที่มีอยู่เดิมได้เป็นสองเท่าภาย ในสิ้นปี 2555" โอมิกาวา กล่าว