นายสุชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนชื่อจากบล.ซิกโก้ ไปเป็น บล.ซีไอเอ็มบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อลูกค้า ซึ่งลูกค้าของบริษัทยังคงทำธุรกรรมต่างๆได้เหมือนเดิม โดยลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซิกโก้ ยังคงใช้เลขที่บัญชีเดิมในการส่งคำสั่งซื้อขายกับบริษัทในทุกประเภทบัญชี อีกทั้งบริษัทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีของบริษัทที่เปิดไว้กับแต่ละธนาคาร ในกรณีที่ลูกค้าประสงค์จะโอนเงินเข้าบริษัท (Payin) ลูกค้าสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารหมายเลขเดิม เปลี่ยนเฉพาะชื่อบัญชีในการสั่งจ่ายเป็น “บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)” ในภาษาไทย และ “CIMB Securities International (Thailand) Public Company Limited” ในภาษาอังกฤษ เท่านั้น
ในส่วนของอีกบริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่มซีไอเอ็มบี คือ บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ชื่อภาษาอังกฤษ CIMB Securities (Thailand) (ชื่อย่อ CIMBS) ซึ่งมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.99% บริษัทขอแจ้งลูกค้าว่า การให้บริการต่างๆยังเป็นเหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
“ขณะนี้กลุ่มซีไอเอ็มบีกำลังมองไปถึงโอกาสในการผสานความร่วมมือระหว่างฐานธุรกิจหลักทรัพย์ใหม่ ซึ่งก็คือ บล. ซีไอเอ็มบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กับ บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ต่อไปในวันข้างหน้า โดยกลุ่มซีไอเอ็มบี มีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด อย่างน้อยหนึ่งเท่าตัวและมีเป้าหมายเป็น 1 ใน 5 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย” นายสุชาย กล่าว