เพื่อเพิกถอนหุ้น KARAT ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบบุคคลภายนอก
การกระทำข้างต้นเป็นความผิดมาตรา 241 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 296 ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้จึงมีคำพิพากษาลงโทษปรับ 2,518,646.23 บาท แต่เนื่องจากนางรัชนีรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่งคงเหลือ 1,259,323.11 บาท
คดีนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2554 ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ นายอภิชาติ นางรัชนี นายกฤษฎากุลวิวัฒน์ และนายปรีชา ไม่ทราบนามสกุล ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากพบพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าในระหว่างวันที่ 15 มกราคม - 2 กรกฎาคม 2545 บุคคลดังกล่าวซื้อขายหุ้น KARAT โดยอาศัยข้อมูลภายในก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อประชาชนในวันที่ 3 กรกฎาคม 2545 ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายอภิชาติ นางรัชนี นายกฤษฎา และสั่งไม่ฟ้องนายปรีชา แต่นายอภิชาติ และนายกฤษฎา หลบหนีจึงมีการออกหมายจับ เพื่อนำตัวมาฟ้องคดีต่อศาล