นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทพรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการรับงานเพิ่มในช่วงต้นปี 2555 รวมทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาสแรกของปี 2555 ที่ยังคงเติบโตได้ดี และขยายตัวสูงถึง39% มีกำไรสุทธิขยายตัวคิดเป็น 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2554 ทำให้บริษัทฯ อาจจะทบทวนเพื่อปรับเพิ่มประมาณการรายได้ในปี 2555 โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในกลางปี 2555
“การรับงานเพิ่มในส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในไตรมาสแรกของปีนี้ มูลค่ากว่า 3,320 พันล้านบาท และผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ดีมาก มีแนวโน้มจะทำให้รายได้รวมของพรีบิลท์ทั้งปี 2555 เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.7 พันล้านบาท และอาจส่งผลให้เราต้อง ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้อีกครั้งในกลางปีนี้” นายชัยรัตน์ กล่าว
ผลการดำเนินงานของบริษัทพรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสแรกของปี 2555 มีรายได้รวม 916 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 39 % และมีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 658 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท กำไรสุทธิขยายตัวคิดเป็น 100% โดยมีมูลค่างานคงค้างในมือ (แบกล็อก) ประมาณ 4,700 ล้านบาท”
โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีรายได้ในไตรมาสแรกนี้ 737ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทลูกซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท พีซีเอ็ม คอนสตรัคชั่นแมททีเรียล จำกัด ซึ่งผลิตและจำหน่ายคอนกรีตสำเร็จรูป มีรายได้ในไตรมาสแรกนี้ 98 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2.1 ล้านบาท บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการรับรู้รายได้ใน ไตรมาสแรกของปีนี้รวม 116 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท ส่วน บริษัท บิลท์ฮาร์ท จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจดูแลและบริหารอาคารชุด และเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์นั้น มีรายได้ในไตรมาสแรกนี้ 0.36 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 0.027 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่า ในปี 2555 จะมีรายได้รวม 3.7 พันล้านบาท ขยายตัวจากปี 2554 ประมาณ 20% และวางเป้าหมายการขยายตัวของรายได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้าเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปี 18%
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า การที่ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2555 ขยายตัวค่อนข้างสูง และมีความโดดเด่นเนื่องจาก การทยอยการรับรู้รายได้จากผลประกอบการของบิลท์ แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือของพรีบิลท์ มีกำไร จากการรับรู้รายได้ในการโอนกรรมสิทธิ์ คอนโดมิเนียม เดอะเทมโป พหลโยธิน ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วกว่า 35% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมด และคาดว่าจะปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์ได้ทั้งหมดก่อนสิ้นปี 2555
อย่างไรก็ตามการทบทวนและปรับเพิ่มประมาณการรายได้รวมของปี 2555 จะขึ้นกับ ความรวดเร็วของการเริ่มงานในส่วนงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ที่ได้รับเพิ่มเข้ามาเมื่อต้นปี ซึ่งจะส่งผลต่อการทยอยรับรู้รายได้ในระยะต่อไปของบริษัทฯ ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการฟื้นตัวภาคธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เร็วกว่าที่คาดอีกด้วย